ค้นหาที่เที่ยวในบล็อกนี้

13 กุมภาพันธ์ 2564

หนีโควิด19 เที่ยวภูเก็ต-พังงา 4 วัน 3 คืน (Day 4) นั่งทอดอารมณ์ที่จุดชมวิวเสม็ดนางชี ชมหาดไม้ขาวก่อนขึ้นเครื่องกลับ

วันสุดท้ายกะว่าจะตื่นสายๆ สักหน่อย แต่ตื่นเช้าจนเริ่มชิน เดินชมวิวสถานที่พักซักหน่อย เมื่อวานฝนตกเลยไม่เดินดู เราพักที่ Blue Mountain Phangnga Resort and Restaurant เป็นทั้งร้านอาหารและที่พัก





กินข้าวเช้าในที่พักเลย เดินขึ้นเดินลงไม่ไหว วางแผนว่าจะไปเล่นน้ำต่อดี หรือไปชมวิวที่ เสม็ดนางชี

ผมเลือกไปชมวิวก่อน เพราะเห็นรีวิวหลายรอบ ต้องไปชมสักที


ใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมงจากตัวเมืองพังงา

ดูรีวิวจากเว็บ ทำให้รู้ว่ามี 2 แห่ง แห่งแรกเป็นที่กางเต็นท์ ถนนชันและเป็นลูกรัง อีกแห่งทางปูน มีร้านกาแฟ และที่พัก ผมเลือกสบายอยู่แล้ว พาถึงที่จอดรถ เข้าไปซื้อตั๋วเพื่อนั่งรถ 4WD เสียค่าขึ้นคนละ 50 บาท เอาไปแลกเป็นค่าอาหารหรือเครื่องดื่มได้ แต่ต้องจ่ายถึง 200 บาม ถึงจะได้ลดราคา 30 บาทต่อคน



ทางขึ้นชันจริงๆ และสวนไม่ได้ ต้องยอมเขาเลยเส้นทางนี้





ต้องบอกเลบว่าวิวสวยมาก และผิดจากจินนาการเอาไว้ เพราะทีแรกคิดว่าจุดชมวิวอยู่บนเขาที่รถขับไปถึง แต่นี่เป็นแบบขับจากล่างขึ้นบน เขาสร้างที่ชมวิวไว้บนเนินเขา

ทีแรกว่าจะไม่กินอาหาร จิบกาแฟชมวิวก็พอ พอนั่งลงปุ๊บก็หิวปั๊บเลย สปาเก็ตตี้เส้นดำซีฟู้ดรสจัดจ้าน อร่อยมากครับ เมนูนี้




ผมดู Google Map ก็ทราบว่าตำแหน่งนี้อยู่ตรงกับเกาะตาปู และสามารถขึ้นเรือที่ท่าเรือแถวนี้ได้เลย ไม่ต้องไปถึงท่าเรือบ้านท่าด่าน



พอเห็นแบบนี้แล้ว เลยลองซูมกล้องดู ก็เห็นหัวเกาะตาปูอยู่ไกลๆ


ตรงกลางภาพคือเกาะตาปู มุมมองจากจุดชมวิวเสม็ดนางชี

จุดชมวิว เสม็ดนางชี (ที่มาของภาษาถิ่น เหม็ดนางชี เกี่ยวโยงกับแม่ชีจริงๆ ด้วย แต่ไม่มีเสม็ด น่าจะเรียกเพี้ยนไปแบบภาษากลาง)​ ถ่ายจากเรือตอนออกมาจากเกาะตาปู ยอดเขาเตียนโล่งนั่นเอง คือที่ชมวิวบนยอดเขา


สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มาพร้อมกับตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา ในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้มีพระภิกษุชรา 1 รูป อยู่ที่เขาพระอาดเฒ่า มีพระภิกษุหนุ่ม 1 รูป อยู่ที่เขาพระอาดหนุ่ม และแม่ชีอาศัยอยู่บริเวณใกล้จุดชมวิว ต่างเดินไปมาหาสู่กัน ซึ่งต้องเดินผ่านลำคลอง เมื่อแม่ชีเดินผ่าน จะต้องเหม็ดผาขึ้น (พับผ้าขึ้น) ให้พ้นจากน้ำ เพราะไม่อย่างนั้นชายผ้าจะเปียกนั่นเอง

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พอมาดูเวลา ก็ไม่พอที่จะไปแวะเล่นน้ำตามแผนที่ตั้งไว้ เลยเดินทางไปนั่งเล่นฆ่าเวลาริมชายหาดก่อนขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ

หาดไม้ขาว คือจุดแวะเกือบสุดท้ายของทริป ที่ทั้งเงียบและเหมือนหลงทาง



พอมาถึงก็หิวข้าวแล้ว  เอาไงดี ไปกินขนมจีนที่ถลางก็แล้วกัน แต่พอไปถึงร้านบอกว่าของหมดแล้ว อ้าว ชื่อร้านบอกขนมจีนบ่ายสาม นี่ก็มาช้าแป๊บเดียวเอง สรุปไปร้านของฝากหาข้าวกินดีกว่า

แต่ร้านอาหารที่ติดกันปิดครับ ก็เลยกินอะไรง่ายๆ แถวนั้น

แล้วก็เข้าสู่สนามบินภูเก็ต มาถึง 16.30 น. แต่บินเวลา 19.15 น. นั่งเล่นๆ ไป เก็บภาพในสนามบินอีกก็ดี คนโล่งๆ สบายๆ ในวันพุธ


ได้เก็บภาพอาทิตย์ตกด้วย



มาถึงกรุงเทพฯ 20.40 น. จบทริปวันที่สี่ เป็นอันสิ้นสุดของทริปนี้ ขอบคุณที่ติดตามครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น