ค้นหาที่เที่ยวในบล็อกนี้

28 กุมภาพันธ์ 2562

นั่งรถไฟไปโคราช


ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ทดลองมาใช้บริการนั่งรถไฟ เป้าหมายคืิอ ไปโคราช นั่นเอง เริ่มจากการจองตั๋วผ่านระบบออนไลน์ ไม่ยุ่งยาก แต่มารู้ที่หลังว่าที่จองนั่นน่ะ แพง! เพราะไปจากรถไฟไปอุบลฯ ราคาเลยสูง 425 บาท + อีก 30 บาท จองไป 2 ที่ เลยแพง เพื่อนมาบอกทีหลังว่านั่งรถทัวร์ถูกกว่า แค่ 191 บาทเอง


แต่จองไปแล้ว และจริงๆ อยากได้ภาพจาก สถานีรถไฟหัวลำโพง ก็ถือว่ามาถ่ายรูปเล่นๆ ก็แล้วกัน (ปลอบใจตัวเอง 555)

ตามตารางเวลาเขากำหนดให้มาขึ้นรถไฟเวลา 05.45 น. เรามาตั้งแต่ตี 4 เลย เผื่อเวลาไว้ แต่ก็นะ เขามาสายอีก 20 นาที ก็รอๆ ไป ไม่นาน

















สรุปเดินทางประมาณ 5 ชม.หน่อยๆ ก็ถึงโคราช แอร์เย็นสบายดีไม่ร้อน ไม่รีบ ไปเรื่อยๆ ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ลองดูนะครับ

คราวหน้าจะลองขึ้นรถไฟชั้น 3 ดูบ้าง คงร้อนน่าดู โอเพ่นแอร์ไปเลย (โปรดติดตาม)

09 กุมภาพันธ์ 2562

เที่ยวแดนอีสาน 5 วัน 4 คืน ชัยภูมิ-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-ยโสธร-อุบลราชธานี

เป็นทริปไปทำงาน แต่แวะที่เที่ยวเยอะมากก่อนทำงาน พอถึงวันทำงานกลับป่วยซะอีก 555 เก็บภาพสวยๆ มาฝากเยอะเลยครับ แต่ขอแนะนำก่อนว่าไปเที่ยวไหนมาบ้างจาก 5 จังหวัดที่เดินทางผ่านไปมา



วันแรก
ไปที่นี่เพราะดูรีวิวจากเว็บไซต์อื่นๆ หาที่แวะเที่ยว เจอที่นี่ ผาหำหด ต้องลองแวะหน่อย ไปหน้านี้แล้งมาก ปลายเดือนมกราคม ไม่มีดอกกระเจียว ทั้งอุทยานมีเราเพียงสองคนพ่อลูก รู้สึกเสียวๆ ตั้งแต่เดินมา แต่มาแล้วทั้งที ก็เดินไปหน่อยแค่ 2 กม. เอง มารู้ทีหลังว่าขึ้นอีกทางก็ได้ ห่างจากที่จอดรถแค่ 300 เมตรเอง มีให้เข้า 2 ทาง (คงไปหนเดียวพอ 555)




ร้าน Lakeside อยู่ที่ บึงหนองตาดำ จังหวัดชัยภูมิ อยู่ใกล้เมือง เป็นบึงขนาดใหญ่ มีร้านอาหารร้านนี้ร้านเดียวอยู่ทางทิศตะวันออกของบึง จึงทำให้ได้ชมวิวอาทิตย์ตกที่สวยมาก มีเรือให้พายเล่นฟรีด้วย



วันที่สอง
หาที่กินข้าวเช้าในตัวเมืองชัยภูมิก่อนเดินทางต่อ มาจอดที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เจอ ปรางค์กู่ อยู่ด้านหน้าเลย แวะเก็บภาพสักหน่อย ปรางค์กู่ เป็นปรางค์ขนาดเล็กไม่ใหญ่มาก ไปอ่านประวัติดูจึงรู้ว่าสร้างพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แหม..รู้สึกว่าท่านสร้างไว้หลายที่เหมือนกัน



ขัยรถจากชัยภูมิมาเส้นทางผ่านจังหวัดมหาสารคาม เสริชหาที่แวะ มาเจอที่นี่ สะพานไม้แกดำ แวะอีกที่แล้วกัน พอมาถึงจึงรู้ว่าเป็นสะพานไม้ที่สร้างขึ้นจากหมู่บ้านมายังวัด ชื่อหมู่บ้านคือ หัวขัว ไปอ่านข้อมูลจึงรู้ว่า ขัว แปลว่า สะพาน (เที่ยวแบบไม่มีข้อมูล ดูเน็ตตลอด ก็สนุกดีมีสาระบ้าง)



ดู GPS เจอที่นี่บอกว่าเป็นที่เที่ยวกลางเมืองร้อยเอ็ด คือ Street Art 101 ภาพวาดกราฟีตี้ แวะชมสักหน่อย สีสันสดใส แต่เจอแดดแรง สีเลยซีดไปเลย



ที่สุดท้ายก่อนออกจากร้อยเอ็ดคือ บึงพลาญชัย แวะเดินเล่นที่นี่ แวะหลายรอบแต่ไม่เคยเดินเล่น ถึงรู้ว่าเป็นสวนสาธารณะด้วย



เดินไปก็เริ่มหิว หาลาบกินสักหน่อย ไปถามคนแถวนั้นว่าร้านลาบที่ไหนอร่อย เจอเด็กนักเรียนวัยรุ่นคนหนึ่งตอบว่า "ไปทางนั้นครับ มีร้านลาบยโสฯ" เราก็หัวเราะเลย มาหาลาบร้อยเอ็ด แต่ได้ลาบยโส

เลยตัดสินใจ หาเองดีกว่า ก็มาเจอร้านลาบใกล้ตลาด ร้านลาบนายนพ ราคาไม่แพง ประหยัดไปเลยมื้อนี้


จากนั้นก็เดินทางต่อจนมาถึงยโสธร เป้าหมายคือ อ.ป่าติ้ว พักผ่อนที่ยโส 1 คืน แต่ยังไม่ถึงวันทำงาน เลยได้ไปเที่ยวต่อ แผนแรกคือจะไปเที่ยวมุกดาหาร แต่เพื่อนที่เราไปพักด้วย เขาจะไปส่งเห็ดที่อำนาจเจริญ และเลยไปอุบลฯ ให้ จะพาเราไปเที่ยว


วันที่สาม
เดินทางมาอุบลฯ หลังส่งสินค้า (เห็ด) เรียบร้อย สถานที่แห่งแรกคือ หาดทรายสูง ต้องบอกว่าประทับใจมาก ชายหาดที่นี่กว้างมาก ติดแม่น้ำโขง ฝั่งตรงข้ามคือประเทศลาว หามุมกล้องถ่ายภาพเล่น เหมือนมาทะเลทรายเลย

แต่ต้องระวัง อย่าเอารถลงมาข้างล่าง ให้จอดด้านบน เพราะทรายที่นี่สูงสมชื่อ ใครลงไปติดทรายทุกราย ดีที่เราขึ้นมาเองได้ แต่ก็ใช้เวลานานพอสมควร ไม่งั้นต้องจ้างรถมาลากขึ้นแน่นอน



ที่นี่ยังมีร้านอาหารเป็นแพริมแม่น้ำ ลมเย็นพัดสบายดีมาก



เราไปเที่ยวอีกแห่งคือ สามพันโบก ต้องถือว่าที่นี่คือที่เที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของอุบลฯ เลยทีเดียว เทียบๆ กับเปตราที่จอร์แดนได้เลย อาจจะเล็กกว่าในแง่ของสถานที่ แต่ความอลังการได้อารมณ์ความรู้สึกเดียวกัน



วันที่สี่
ต้องทำงาน ป่วยตั้งแต่เมื่อคืน ตัวร้อน สงสัยเพราะตากแดด และเดินทางหลายร้อยกิโล แต่ก็ผ่านไปได้ และนอนพักที่ยโสฯ อีกคิืน

วันที่ห้า
เดินทางมาทำงานที่โคราชต่อ แต่ขอแวะเที่ยวที่ยโสฯ อีกสักหน่อย ก็แล้วกัน มาทั้งที ต้องเอาให้คุ้มก่อนเดินทาง


ธาตุก่องข้าวน้อย อยู่ใกล้ตัวเมือง ต้องแวะตามชื่อเสียงของเมืิองยโสฯ มาตามตำนานเรื่องเล่าโดยแท้ ก็เอาล่ะ แวะเก็บภาพให้ครบ





อีกที่หนึ่งคือ พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก หรือคางคกยักษ์ เคยมาแล้วหนนึง คราวนี้พาลูกมาด้วย เลยแวะอีกรอบ แอร์เย็นมากด้านในอาคาร เขายังตกแต่งสถานที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์เลย แต่ก็เปิดให้เข้ามาชมได้



แห่งสุดท้าย เห็นจากภาพในพิพิธภัณฑ์ เลยดูจาก GPS แล้วแวะมาชมสักหน่อย เมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า ก็ยังพอมีให้เห็นอาคารเก่าๆ บ้าง แต่เหมือนเขาจะไม่ค่อยมีป้ายบอกสักเท่าไหร่ ต้องถามคนแถวนั้นเอา และเดาๆ บ้าง


05 กุมภาพันธ์ 2562