ค้นหาที่เที่ยวในบล็อกนี้

07 กันยายน 2563

ร้านอาหารริมอ่าวไทย ไม่ได้มีแค่บางปู (เพิ่มเติมจาก 2 ไปอีก 6 แห่ง)

จริงๆ ไม่มีอะไรมาก แค่ผมมีโอกาสไปทำงานบรรยายเกี่ยวกับผลกระทบเรื่องโลกร้อนและการคัดแยกขยะ มาทำงานแถวๆ สมุทรปราการ 3-4 ครั้ง ก็เลยมีเวลาหาข้าวเย็นกินริมทะเล

แต่เดิมก็รู้จักแค่บางปู และร้านอาหารทะเลแถวนั้น แบบเดิมๆ ไม่กล้าไปกินที่ไหน กลัวรสเปลี่ยน

แต่พอที่มาทำงานไกล ที่พักก็ไกลจากบางปู ก็เริ่มหากินใกล้ๆ แล้วกัน

ก็เลยใช้ Google Map ช่วยค้นหาและเป็นไกด์นำทาง อาศัยดูรีวิวของคนที่เขาไปกินมาแล้ว แล้วก็รีวิวร้านค้า ดูเวลาปิด-เปิดด้วย อันนี้สำคัญ เพราะบางวันเขาปิด เคยไปเก้อหลายที่ เพราะลืมดูเรื่องเวลาปิด ถ้าโทรเช็คได้ยิ่งดี

คราวนี้แนะนำรวดเดียว 8 แห่งเลยครับ

1. ศาลาสุขใจ บางปู  (สมุทรปราการ)

https://goo.gl/maps/CuQwmfpiTuRQwMM9A

ที่นี่อยู่ในสถานตากอากาศอยู่แล้ว ใครๆ ก็มาที่นี่ ดูนกนางนวล ชมอาทิตย์ตกใช่ไหม


2. สายลม บางปู  (สมุทรปราการ)

https://goo.gl/maps/Kxt6sMyw3zKST3kx6

ที่นี่หลายคนอาจจะรู้จักกันแล้ว ผมไปตั้งแต่ร้านเค้าเล็กๆ จนตอนนี้ใหญ่โต ขยายกว้างขึ้น ทันสมัยขึ้น


เห็นวิวทะเลแบบมีถนนกั้นเป็นทางเดินได้ มีที่นั่งทั้งแบบเปิดโล่ง โต๊ะใหญ่ และแบบมีหลังคา กรณีฝนตกแดดออก ปลอดภัยไว้ก่อน ที่นี่มีร้านกาแฟอีกด้วย พร้อมขายเซรามิก

3. ร้าน ณ เล  (สมุทรปราการ)

https://goo.gl/maps/Pm8bFUaGQQmV26yP7

ร้านนี้มาไกลหน่อย เข้าซอยเล็กๆ แคบๆ มีที่จอดรถ แล้วเดินมาอีกนิด ผ่านชุมชน ร้านติดทะเล มาง่ายไม่ยาก บรรยากาศดีมาก เป็นส่วนตัว นั่งชมวิวหรือเดินเล่นได้เลย ร้านตกแต่งด้วยสีขาว ตัดกับสีเขียวของต้นแสม 



มีเมนูแปลกๆ ให้เลือกกิน รสชาติใช้ได้เลยทีเดียว

4. มอเกน บางปู (สมุทรปราการ)

https://g.page/moken126?share

ไม่ใช่มอแกน อ่านว่า มอเกน เป็นร้านริมทะเลอีกร้าน แต่ที่นี่มี 2 ชั้น และที่นั่งเล่นริมทะเลอีก มีการนำต้นมะพร้าวมาปลูกไว้ในบริเวณที่จอดรถ ทำให้ได้บรรยากาศริมทะเลในมโนคติของคนทั่วไป (ขนาดนั้นเลย) เพราะต้นมะพร้าวกับทะเลเป็นภาพจำของคนรุ่นหนึ่งเลยกว่าได้ ถือว่าได้เปรียบเรื่องบรรยากาศกับสถานที่

อาหารก็มีเอกลักษณ์ ถือว่าไปแล้วไม่ผิดหวังครับ




5. บ้านหลีซีฟู้ด (ฉะเชิงเทรา)


ถ้าให้เลือก ก็คงบอกว่าชอบบรรยากาศที่นี่มากที่สุด เพราะนั่งเล่น นอนเล่น กินเพลินๆ ชมวิว ถ่ายภาพ เดี๋ยวเรือก็แล่นออกมาจากคลอง ให้นอนที่นี่ผมก็เอานะ คงหาโอกาสไปอีกรอบ ชอบจริงๆ ครับ

อาหารซีฟู้ดแบบบ้านๆ พอได้ ราคาไม่แพงนัก 




6. ไผ่ทะเล (ฉะเชิงเทรา)


ร้านนี้มาจาก GPS ไม่รู้บรรยากาศ ถือว่ามาแบบสุ่มๆ บรรยากาศโดยรวมคือ เหมือนมาเที่ยวเกาะเลย ไม้ไผ่ทั้งร้าน ทั้งทางเดินและที่นั่ง ควรมาแต่วันๆ ก่อนมืด เพราะจะได้เดินเล่นริมทะเลด้วย แต่ร้านไม่ติดทะเล มีต้นแสมบังวิวทะเลหมดเลย 

อาหารอร่อย ควรมาเสาร์-อาทิตย์ เพราะสั่งอะไร ก็ไม่ค่อยจะมี แต่รสชาติ เห้ย อร่อย พอคุ้มกับที่มาหน่อย




7. cafe on สะพาน (ชลบุรี)


เพื่อนพามากิน แนะนำว่าลองมานั่งดู จะชอบบรรยากาศวิวทะเลอ่าวไทยของชลบุรี ผมเคยขับรถผ่าน แต่ไม่กล้าแวะ พอมีคนชวนก็เลยได้โอกาส ถือว่าใช้ได้ครับ เน้นบรรยากาศและดื่มกาแฟเย็นในห้องแอร์



8. โพธิ์ทะเลหลวง (ชลบุรี)


แน่นอนว่าหลังจากมาที่ชลบุรี ต้องหาร้านอาหารทะเลกินอีก ช่วงนี้กินซีฟู้ดแบบเยอะมาก เลยมาถึงอ่างศิลา มาเกือบทุกร้านแล้ว ลองร้านแปลกๆ ไม่รู้จักบ้าง ใช้ google map นี่แหละง่ายดี

ว้าว เลยครับ บรรยากาศดี วิวสวย สีขาวกับร้านอาหารทะเลดูเข้ากันได้ดี จะถ่ายภาพสวยๆ ก็จะเป็นวิวทะเลกับเขาสามมุข เหมือนกับว่าเราอยู่กันในอ่าว สวยได้ใจคนชอบบรรยากาศเลยครับ




เป็นไงบ้างครับ รีวิวแบบสั้นๆ ง่ายๆ ที่เหลือจากนี้ ท่านต้องไปพิสูจน์เอง แล้วแต่ชอบนะครับ อย่าลืมเช็คเรื่องเวลาเปิด-ปิดนะครับ สำคัญมาก ถ้ามาไกลอาจจะเสียเที่ยว ทริปนี้ใช้เวลาหลายนวันกว่าจะไปได้ทุกที่ครับ ไม่สามารถไปได้ในวันเดียว

ขอให้มีความสุขกับวันดีๆ ของท่านนะครับ



09 สิงหาคม 2563

4 วัน 3 คืน ทะเล ภูเขา เกาะ (จันทบุรี-ตราด) เกาะช้าง-กรุงเทพฯ วันที่สี่

เช้าวันที่สี่ วันสุดท้ายของทริป ต้องกลับแล้ว ถือว่าไม่ได้มาเที่ยวอะไรเลย โปรแกรมที่คิดจะไปดูน้ำตก ชมวิวทะเลบนเขา หรือเล่นน้ำทะเล 

ดูเหมือนทริปนี้มันจะพังๆ ยังไงไม่รู้ แต่ก็เอาเถอะ ถือว่ามานอนต่างที่ กินต่างถิ่น ก็แปลกๆ ดี

เช้าๆ มานั่งกินอาหารของรีสอร์ท จ่ายเอง เพราะไม่รวมอาหารเช้า ราคาก็พอสมควร



พอจบอาหารเช้า ก็เดินทางมายั่งท่าเรือ แวะที่จุดชมวิวไก่แบ้ https://goo.gl/maps/tT5DssSgWbHHxErF7

แต่ฝนตกพรำๆ ลงไปถ่ายภาพนิดนึง ถือว่ามาแล้ว
มาที่ท่าเรือของอ่าวธรรมชาติที่มาเมื่อวาน โอโห รถติดยาวเลย มีแววว่าจะต้องรออีกนานแน่ เลยตัดสินใจขับรถไปขึ้นอีกท่าเรือนึง ท่าเรือเซนเตอร์พอยท์ 
https://goo.gl/maps/vXpE2LV95QLCqtq57
สรุปก็รอนานเหมือนเดิม เพราะฝนตก ไปถึง 11 โมง ตามโปรแกรมจะออก บ่ายโมงตรง แต่เลื่อนไปอีกครึ่งชม. โอเค นั่งรอไปแบบลุ้นตลอดว่า เมื่อไหร่ ฝนจะหยุดตก
ต้องบอกเลยว่า เรือเฟอร์รี่ของท่านี้ค่อนข้างเก่า สนิมเยอะไปหน่อย ทำให้ลุ้นตลอดของทริปเกาะช้าง
พอข้ามมาได้ GPS ก็พาไปทางลัด ซึ่งถนนหลัก ออกจากท่าเรือเลี้ยวซ้ายได้เลย แต่ GPS พาเราเลี้ยวขวา ยังนึกว่าพามาหลงเข้าป่าหรือเปล่า สรุปก็พาออกมาได้

หิวข้าวมาก เห็นป้ายงานที่ อ.ขลุง เป็นงานถนนคนเดิน แวะหาข้าวกินเลย พอได้ สนุกดีกับทริปนี้

ใครชวนให้นั่งเรือไปเกาะหน้าฝน ต้องขอคิดหลายตลบ เพราะทริปนี้ เข็ดเลย 555

กลับสู่ กทม.เส้นทางเดิม เข้า อ.แกลง แล้ววกผ่านเส้น อ.พนัสนิคม เข้าสู่ตัวเมืองฉะเชิงเทรา แล้วตรงสู่สุวินทวงศ์ ถึงกรุงเทพฯ ไม่มืด กำลังดี

4 วัน 3 คืน ทะเล ภูเขา เกาะ (จันทบุรี-ตราด) เกาะช้าง วันที่สาม

วันที่สาม ไม่ได้อยู่ในแผน แต่เพื่อนอยากเที่ยวเกาะช้าง เห็นว่าไม่ไกลจากที่พัก เลยลองไปดู เพราะเคยไปมาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว (20 ปีจริงๆ ตั้งแต่ลูกยังเล็กๆ)

ดังนั้นเป้าหมายของวันนี้คือท่าเรือข้ามฟาก อ่าวธรรมชาติ

เรามาถึงประมาณ 11.00 น. ซื้อตั๋ว คนละ 80.- ค่ารถข้าไปอีก 120.- โทรจองโรงแรมเอาำว้ แต่ลองดูที่อื่นๆ ด้วย เพราะเขาคิดคืนละ 1,100.- ไม่รวมอาหารเช้า

พวกเราก็คิดว่ามาวันเสาร์ที่ไม่ใช่เทศกาล ก็คงรอไม่นาน เดี๋ยวก็ได้ข้าม

สรุปนั่งรอในรถ ออกมาเดินเล่น ฝนตก แดดออก ครบทุกอารมณ์ ผ่านไป 3 ชม.อย่างช้าๆ โห อยากยกเลิกโปรแกรมเลย เพราะมันนานเกินจนหายอยาก ความประทับใจในอดีตเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ลดลงไปครึ่งหนึ่งเลย

เอาล่ะ ยังไงๆ ก็ได้ข้าม เพราะคนเขาก็รอกันตั้งเยอะ

พอได้ข้ามมาก็เริ่มหาที่พัก ดีว่าหาๆ จากมือถือก็ได้มา 2 ที่ สุดท้ายเลือกที่นี่ เพราะดูใหม่สุด Nuture Beach Resort

มีสระว่ายน้ำ ติดทะเลเลย แต่ทะเลวันนั้นเล่นไม่ได้ เพราะคลื่นแรง ฝนตกตลอด อันตรายเกินจะลง
สระนำก็ยังดี ลงไปแช่สักหน่อย วันนั้นลูกค้าก็เยอะเหมือนกัน แต่หน้าฝน บรรยากาศเหงาๆ มาก ค่ำลงฝนก็ตกอีก ได้พักจริงๆ แต่พักอยู่แต่ในห้องนอน

4 วัน 3 คืน ทะเล ภูเขา เกาะ (จันทบุรี-ตราด) อำเภอสอยดาว-ทุเรียนแลนด์-คุกขี้ไก่ (จำลอง) วันที่สอง

วันที่สองออกจากที่พักเพื่อมาทำงาน เลยแวะชมวิวภูเขาของ อ.สอยดาว

ต้องบอกเลยว่า คนไม่ค่อยมาเที่ยวที่อำเภอนี้เท่าไหร่ เพราะไม่ใช่เส้นหลักที่มาจากจันทบุรีเพื่อไปตราด แต่เป็นเส้นที่สามารถไปทางตะวันออกเฉียงเหนือได้ อย่าง จ.สระเแก้ว

หน้า อ.สอยดาว จะอยู่บนเนินเขา และมองเห็นวิวเมืองและภูเขา สวยดี ถ้าหน้าหนาวยิ่งได้บรรยากาศ ผมเคยมารอบหนึ่งแล้ว

https://goo.gl/maps/KYuHnhF7FVhe76ReA

เจตนาที่มาที่นี่เพราะมาทำงานด้านมีเดียของผม พอเสร็จงาน ผู้ว่าจ้างก็คือคนกันเอง จองที่พักให้ วิวภูเขาแบบพาโนรามาอีก ชื่อว่า ทุเรียนแลนด์

https://goo.gl/maps/KHR7tbeYs3Tvzefp6

ที่นี่เขาปลูกทุเรียน มีร้านกาแฟบนภูเขา คนทั่วไปต้องนั่งรถของที่นั่น ส่วนผมพักข้างใน เลยขับรถเข้าไปได้ เส้นทางเป็นทางชันในระยะสั้นๆ ถ้าใครไม่ชำนาญทางภูเขา ควรใช้เกียร์หนึ่ง หรือเกียร์สำหรับขึ้นเขานะครับ

คืนละ 1,200.- มีอาหารเช้า นอนได้ 2 คน มีห้องนั่งเล่นกว้างมาก เหมือนมานอนบ้าน
วิวภูเขาแบบกว้างๆ แค่นั่งเฉยๆ ก็เพลิน เปิดเพลงเบาๆ ด้วย ไม่รู้จะบรรยายยังไง ดูภาพเอาแล้วกันครับ

ตอนเย็นก็ขับรถไปกินข้าวในเมือง จะว่าในเมืองก็ไม่เชิง แต่ต้องผ่านตัวเมือง

เป้าหมายคือ ร้านอาหารปูจ๋า ท่าแฉลบ https://goo.gl/maps/pZ5AyfTJ2G2TXYRP9

ขากลับแวะที่รูปที่ระลึกที่คุกขี้ไก้ (จำลอง) เพราะของจริงอยู่ที่แหลมสิงห์

https://goo.gl/maps/4RCsSV3hMWBEAKTL9
ก็สวยดียามค่ำคืน เขาเปิดไฟไว้ด้วย แต่ร้านกาแฟปิดไปแล้ว

4 วัน 3 คืน ทะเล ภูเขา เกาะ (จันทบุรี-ตราด) วันแรก เกาะเปริด-แหลมสิงห์

ต้องบอกเลยว่ากา่รท่องเที่ยวของไทย อัดอั้นมาหลายเดือน พอมีช่องให้คนได้ออจากบ้านบ้างก็ทะลักกันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นธรรมดาไม่ว่าจะเทศกาลหรือไม่เทศกาล 

ที่ไหนมีที่เที่ยว ที่ไหนเปิดใหม่ คนมักจะแห่ไปตรึม

ทริปนี้ไปเดินทางในวันธรรมดา พฤหัส-ศุกร์-เสาร์และอาทิตย์ (30-31กค.- 1-2สค)

นึกว่าคนไม่เยอะ ที่ไหนได้ คนเยอะเกือบทุกที่

เริ่มกันเลยดีกว่ากับการท่องเที่ยวของครอบครัวผม มี 4 คน

วันแรก มุุ่งหน้าสู่จันทบุรี เป้าหมายคือ เกาะเปริด

จุดสตาร์ทของเราเริ่มที่กรุงเทพฯ วิ่งยาวๆ มาทางเส้นสุวินทวงศ์ 304 ทะลุมาทางพนัสนิคม มาโผล่เส้นไป อ.แกลง แล้ววิ่งยาวพอถึงแกลง GPS จะบอกให้เราใช้ทางลัดเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางไปจันทบุรี 

ปักหมุดไว้ที่ เกาะเปริด ที่ร้านกาแฟเปิดใหม่ วิวหน้าผา ชื่อร้าน Sky View Cafe เดินทางประมาณ 4 ชม.หน่อยๆ

https://goo.gl/maps/4pf9ZwTdc1doyK3S9

จอดรถที่วัด เสียค่าจอดบำรุงวัด 20 บาท แล้วเดินตามทางที่ป้ายบอก เหมือนเดินเข้าป่า แต่เส้นทางมาโผล่ที่หน้าผาเลย เจอป้ายสีสันจัดจ้าน (ไปไหม)

มองเห็นร้านกาแฟ เดินเข้าไปในร้าน มีมุมให้ถ่ายภาพหลายมุม ทั้งด้านล่าง และดาดฟ้า ที่ีเก๋สุดคือบันไดสู่ฟ้าเบื้องบน

วิวทะเลกว้างๆ แบบพาโนรามา วันที่ไป ลมแรงดีมาก ฟ้าสวย
มีทั้งกาแฟ และอาหารขาย สั่งแล้วมานั่งรอชมวิว เขาจะให้เจ้าก้อนสั่น (มันเรียกว่าอะไรนะ ที่มันเป็นก้อนกลมๆ แล้วสั่นเมื่อกาแฟเสร็จ)
ถ้าจังหวพดีๆ ฟ้าเปิด ไม่มีเมฆฝน ลมเย็นๆ ทะเลสงบ ก็จะได้ภาพสวยๆ แบบนี้มั้ง
ด้านบนของอาคารมีดาดฟ้าให้ไปถ่ายภาพเล่นอีก
อยากได้วิวของร้านกาแฟ ต้องเดินไปตามป้ายที่เขียนว่า ผาสุขนิรันดร์ จะได้มุมบันไดจากทะเลด้วย เก๋ไปอีก

จากร้านนีี้ หาข้าวกินแถวหาดแหลมสิงห์ ร้านอาหารทะเลที่เพื่อแนะนำ ร้านป้าชะบา

https://goo.gl/maps/qJ48eJiqmwuAHpd19

วิวชายหาดแหลมสิงห์จากร้านอาหารเลย สวยๆ ในวันฟ้าใส นั่งจนอาทิตย์ตก

จากนั้น เราก็เดินทางต่อไปยังที่พัก The Natural Garden Resort 

https://goo.gl/maps/YhVbKKrGfFt1aXky5

ก็ไกลอยู่เหมือน ไปตาม GPS สมัยนี้ไม่ต้องดูแผนที่เลย เชื่อ GPS อย่างเดียว ก็อาจมีหลงๆ ไปบ้างจากจังหวพที่จะเลี้ยว ต้องลุ้นเอาเอง เข้าซอยผิดบ้าง ขับเลยบ้าง ก็แล้วแต่

ราคาที่พักช่วงหน้าฝยรวมอาหารเช้าด้วย ประมาณ 900 บาท/2 คน ก็ไม่แพงอย่างที่คิด