ค้นหาที่เที่ยวในบล็อกนี้

20 พฤศจิกายน 2561

2 วัน 1 คืน ใกล้กรุง กับที่เที่ยวแบบลูกทุ่ง จ.นครนายก

ต้องบอกเลยว่าเดินทางไปนครนายก ขับรถแค่ 2 ชม.ก็ถึงแล้ว แต่ไหนๆ มีเวลามา ก็แวะนั่นแวะนี่ ตามที่ต่างๆ เพื่อเก็บภาพระหว่างทาง เป้าหมายคือ น้ำตกสาริกา


ว่าจะแวะชิมกาแฟชายทุ่ง สักนิด แม้จะไม่ได้อยู่นครนายก แต่เป็นทางผ่าน เห็นเขาว่ามีคิวให้วันละ 300 แก้ว ไปถึง 10 โมงครึ่ง พนักงานบอกต้องรอคิวตอนบ่าย เพราะคิวเต็ม งั้นขอแค่เก็บภาพบรรยากาศแล้วกัน


ที่แวะที่ต่อไปจึงเป็น ร้านกาแฟกับต้นไม้ คลอง 15 เคยไปหลายปี นานมาก เปลี่ยนไปเยอะ คงเป็นเพราะกระดาษโพสต์อิทที่ติดไว้เต็มไปหมด มันกลายเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ไปแล้ว แต่ก่อนไม่มีนะ







ขับไปเรื่อยเปื่อย มองเห็นป้าย ตลาดน้ำริมคลอง-บ้านวังต้น เลี้ยวเลย อ้าว! เราไปวันศุกร์ เขายังไม่เปิด คงเปิดเสาร์-อาทิตย์แน่ๆ เลย เปิดหน้าต่างเก็บภาพแปลกตา เขาเอาตระกร้าพลาสติกมาตกแต่ง เพิ่มสีสันให้กับเส้นทาง


ขับไปต่อ พอถึงจุดนี้ต้องจอด เพราะนกกระยางเยอะมาก สีขาวมาจิกกินหอยกินแมลง ยามที่รถไถเคลื่อนไป เหมือนนกนางนวลที่บางปูเลย อารมณ์เดียวกัน


เป้าหมายต่อไปจึงเป็น สะพานทุ่งนามุ้ย อย่างว่ามาวันธรรมดา ร้านค้าก็เปิดนะ แต่ดูไม่คึกคัก นักท่องเที่ยวก็ไม่มี นาก็เกี่ยวแล้ว ไม่มีต้นข้าวสีเขียวๆ ให้เห็นเลย ได้ภาพมาแต่แบบนี้









มาถึง น้ำตกสาริกา จนได้ กินข้าวก่อนเข้าไป ที่จอดรถเสีย 40 บาท (ที่เอกชน เขาบอกมีโฉนดก่อนเป็นเขตอุทยาน ก็ว่ากันไป) ค่าเข้าคนละ 40 บาท น้ำเยอะดี แต่ไม่แรงมาก คนน้อย เลยเหมือนเป็นที่ส่วนตัวเลย






มาทำงานที่ สวนสาริกาโอโซน และพักที่นี่ด้วย ยามเช้านี่บรรยากาศ ใช่เลย หมอกจางๆ ยามเช้า อากาศสบายๆ ไม่หนาว แค่เย็นๆ ว้าวเลย




ขากลับแวะร้านเปิดใหม่ เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 9-11-18 สะอาด เป็นระเบียบ มีวิวทุ่งนาและภูเขา เหมาะกับคนที่ไม่ชอบลุย แต่ได้บรรยากาศลูกทุ่ง ต้องมาที่ กลางนาคาเฟ่ เขามีป้ายบอกตลอดทาง ลองแวะมาได้ครับ















อาทิตย์ตกกับช่างภาพ เห็นเป็นต้องยิงเก็บเอาไว้ ไม่รู้ทำไม อาจเป็นกฎที่สร้างขึ้นเพื่อความสุขส่วนตัวก็เป็นได้



13 พฤศจิกายน 2561

กินอะไรในเชียงใหม่

เราไปเชียงใหม่ 6 วัน 5 คืน ก็เดินทางไปหลายที่ กินอาหารหลายแบบ แต่ละแบบก็แตกต่างกันไปครับ เรียงตามวันเลย แม้ไม่ได้ถ่ายภาพอาหารทุกมื้อ แต่ก็เก็บภาพไว้เยอะเหมือนกัน มาดูกันว่าเรากินอะไรที่ไหนมาบ้าง

มื้อแรกในเชียงใหม่ ก็คงต้องเป็นที่ The Giant ดื่มชาเขียว กาแฟร้อน ตามด้วยสปาเก็ตตี้ และไส้กรอก ราคารวมเกือบ 500 บาท กาแฟร้อนตกแก้วละ 90 บาท ถ้าเย็นก็เพิ่มราคาขึ้นไปอีกถึง 110 บาท ถือว่าสูงพอสมควร แต่วิวชมฟรี อันี้ก็บาลานซ์กันไป



กะเพรากุ้ง ร้านนี้อยู่ใกล้ๆ ที่ผมไปทำงาน เฮือนสบาย รสชาติพอได้ แต่กุ้งน่าจะปลอกเปลือกก่อน เพราะกินยากเหลือเกิน


บนจุดชมวิวม่อนสน มีร้านหมูกระทะ จิ้มจุ่ม บริการถึงเต้นท์ ก็แล้วแต่ชอบแบบไหน กินๆ ไป ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ก็ได้ฟิวดีครับ (ชุดละ 300 บาท)


อาหารเช้าที่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ผัดผัก แกงจิดเห็ด และไข่เจียว สามัญมากๆ รสชาติดี


เครื่องดื่มชาประเภทต่างๆ ที่ร้านโกหลัก อยู่ใกล้ๆ ฮิโนกิแลนด์ ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่น และส่วนตัวดีมาก


สตรีทฟู้ด ยามค่ำ แถวท่ารถอาเขต กินอาหารญี่ปุ่นกันข้างถนนเลย อร่อยไม่แพง


เข้ามาเดินอีกวันแถวไนท์บาซาร์ เดินเล่นๆ ไปเจอร้าน AIKU กินอาหารญี่ปุ่นอีก ลองไปดูอยู่ชั้นสอง ราคาเท่ากับกรุงเทพฯ รสชาติไม่แพ้กัน และน่าจะให้เยอะกว่าด้วย




วันสุดท้ายขัยรถผ่านมาที่ ตลาดทุ่งเกวียน เดิมเรียก กาดทุ่งเกวียน เปลี่ยนชื่อไปเพราะอะไรไม่รู้ แต่ของฝากประเภทใส้อั่ว แคบหมู ต้องแวะที่นี่ กินข้าวสอยคนละชาม อิ่มสบายท้อง