การไปเชียงคานสมัยนี้ง่ายมาก มีทั้งรถโดยสาร ขับไปเอง หรือจะนั่งเครื่องบินแล้วไปเช่ารถที่สนามบิน ถือว่าสะดวกมาก
ในปัจจุบัน ที่เชียงคาน มีที่เที่ยวเพิ่มขึ้นมาอีกที่คือ สกายวอล์ก ห่างจากเชียงคานประมาณ 30 นาที ถ้ามีรถมาเองก็ง่ายเลย ปักหมุด GPS แล้วขับรถไปตามทางได้เลย ระหว่างทางก็จะมีร้านกาแฟริมโขงให้เลือกเข้าไปนั่งชมวิวและดื่มกาแฟ
ที่ สกายวอล์ก มีค่าบริการ เพียงคนละ ฿30 มีรองเท้าให้ด้วย ควรเลือกไปหน้าหนาว เพราะถ้าไม่ใช่ฤดูกาล กลางวันจะร้อนมากๆ
อีกที่หนึ่งคือต้องไปให้ได้ คือ ภูทอก เป็นจุดชมวิวอาทิตย์ขึ้น และมีทะเลหมอกตลอดเวลา ควรไปแต่เช้า
ผมเคยไปตั้งแต่ต้องขออนุญาตขึ้นไป เดี๋ยวนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน เพราะต้องใช้รถโดยสารขึ้นไปข้างบน
ร้านค้าเยอะมาก เปลี่ยนไปมากๆ และอีกที่ที่ควรแวะ นั่นคือ แก่งคุดคู้ ไม่ไกลจากเชียงคานมากนัก นักท่องเที่ยวสามารถขี่จักรยานไปได้เลย ถ้าไม่กลัวเหนื่อย
แก่งคุดคู้ เป็นโซนร้านอาหารริมโขง สั่งสัมตำ กุ้งทอด มานั่งกินชมวิวริมน้ำ อากาศเย็นสบาย เดินเล่นชมรูปปั้นที่เขาสร้างมาเล่าเรื่องนิทานแก่งคุดคู้ เป็นนิทานพื้นบ้าน น่าสนุกดี
ส่วนการมาพักที่เชียงคาน ก็มีกิจกรรมหลายอย่างเหมือนกัน ตั้งแต่ขี่จักรยานยามเช้า คนไทยพุทธก็ใส่บาตรข้าวเหนียว ตกเย็นก็ดินเล่นชมอาทิตย์ตก และเดินชมถนนคนเดิน
เช้าขี่จักรยานของที่พักได้เลย เดี๋ยวนี้เกือบทุกที่มีบริการฟรี
เย็นก็ถือกล้องมาถ่ายอาทิตย์ตก ฟ้าสีส้มแบบนี้ บอกเลยฟินน์มาก
กลางคืนเดินเล่น เดี๋ยวนี้เชียงคาน คนเยอะมากทั้งเสาร์อาทิตย์และวันธรรมดา ยิ่งเทศกาลแล้ว วางแผนดีๆ ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น