ค้นหาที่เที่ยวในบล็อกนี้

17 มกราคม 2559

ทริปดูงานเกาหลี โรงเรียนชาวนาคานาอัน (3) เรียนกับผู้เชี่ยวชาญ เยี่ยมชมสุสาน เดินทางเข้าเมืองด้วยรถเมล์ ชมตลาดเก่า

วันที่สาม เราอบรมเกี่ยวกับเทคนิคด้านการเกษตรกับผู้เชี่ยวชาญในการทำโรงเรือนสู้กับฤดูกาลที่หนาวเย็นตลอดปี เขาทำกันได้ จากนั้นก็ไปเยี่ยมสุสานผู้ก่อตั้ง และชมภูเขาอธิษฐาน จุดเปลี่ยนของประเทศเกาหลีใต้ ช่วงบ่ายเราลงไปยังโรงเรือนใกล้ๆ โรงเรียน และเดินทางเข้าไปเที่ยวในเมืองโดยรถประจำทาง จบด้วยอาหารเย็นในห้างสรรพสินค้า ซึ่งได้ใช้ชีวิตแบบคนที่นั่นจริงๆ แตกต่างจากการมาท่องเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์โดยทั่วไป

เตรียมถ่ายภาพหมู่

ภาพนักเรียนรุ่นล่าสุดจากประเทศไทย กับคณะครู

แม่คะนิ้งในอุณหภูมิ -2 องศา


บรรยากาศหน้าอาคารเรียน

แนวต้นสนหน้าอาคารเรียน
วันนี้เราได้เรียนรู้กับเกษตรนักประดิษฐ์ President Lee, Hae Kuk (Organic Farming Producers' Association)

President Lee, Hae Kuk (Organic Farming Producers' Association)




หลังจากอบรมเสร็จ ครูก็พาเรามาเยี่ยมชมสถานที่สำคัญของโรงเรียน เช่นที่เก็บมันฝรั่ง อนุสรณ์ต่อสู้กับญี่ปุ่น และการเดินขึ้นเขาไปเยี่ยคารวะสุสานผู้ก่อตั้งโรงเรียน และทีี่อธิษฐานเผื่อประเทศชาติ

ครูกำลังอธิบายถึงที่มาของห้องเก็บมันฝรั่ง

เป็นอนุสรณ์ของชาติเกาหลีเลยทีเดียว

วันนี้แดดออก ฟ้าใส แต่ยังหนาวเหมือนเดิม

น้ำแข็งค้าง สวยดี

เดินลอดอุโมงค์ใต้ทางมอเตอร์เวย์ ทางชันเหมือนกัน

แวะพักเป็นระยะ เพราะถ้าเดินรวดเดียว จะเหนื่อยมาก สำหรับผู้สูงอายุอย่างผม


สุสานของท่านประธานผู้ก่อตั้ง และลูกหลานคนอื่นๆ


ห้องอธิษฐานบนภูเขาสูง

มีพระคัมภีร์ไบเบิ้ลอยู่ในห้อง

วิวที่มองลงมาจากภูเขา

แต่ก่อนที่นี่เป็นที่มาอธิษฐาน แต่ปัจจุบันเลิกไปเพราะทางด่วนมาตัดผ่าน

เข้าสู่ที่โซนที่พักดั้งเดิม

ป้ายผู้ก่อตั้งโรงเรียน

ท่านตั้งหินเอาไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ


ทางเดินกลับสู่ด้านล่าง

ผ่านอีกอุโมงค์



บริเวณจุดต่างๆ ของโรงเรียน

ภาพนี้จะมองเห็นโรงเรือนสาธิตอยู่ด้านล่างของภาพ
หลังอาหารกลางวัน เราเดินออกมาด้านนอกโรงเรียน เพื่อเข้าชมโรงเรือนสาธิตของโรงเรียน




กากมะพร้าวอัดแน่น ใช้แทนดินสำหรับปลูกต้นสตรอเบอร์รี่

สตรอเบอร์รี่ในโรงเรือน


เรียนรู้เรื่องการใช้โรงเรือนแล้ว ก็เดินกลับมาที่ป้ายรถเมล์ เพื่อนั่งรถเมล์เข้าเมือง บ่ายนี้เขาจะพาไปเที่ยวตลาดเก่าในเมืองวอนจู

ป้ายรถเมล์สวยมาก

วิวภูเขา มองจากป้ายรถเมล์

รถเมล์สาย 21 ของเกาหลี ซิ่งเหมือนสาย 8 บ้านเราเลย



ลุงชวน ชูจันทร์

นั่งรถเข้าเมืองเป็นชั่วโมงเหมือนกัน เผลอแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว

เมืองวอนจูก็เหมือนเมืองทั่วๆ ไปของโลก
ที่ตลาดเก่าเมืองวอนจู มีสินค้าเหมือนตลาดทั่วๆ ไป ทั้งของกิน ของใช้ เสื่้อผ้า


ร้านเกี๊ยวซ่าแบบนึ่งสไตล์เกาหลี อร่อยดีครับ






ช่วงเย็น เขาก็พาเราไปต่อที่ห้างใหญ่ของเมือง Homeplus เพื่อรับประทานอาหารเย็น นั่งรถเมล์มาอีก 10 นาทีได้



เทียบกับบ้านเรา ก็คือห้างสรรพสินค้าทั่วไป บรรยากาศข้างในเหมือนเมืองไทยเลยครับ

ยืนรอรับเงินค่าอาหารคนละ 10,000 วอน


ผมเลือกกันชามนี้ครับ แค่ 5,000 วอนเอง

จ่ายตังค์ที่แคชเชียร์

รับบัตรคิว รอแม่ครัวเรียกตามหมายเลข

เยอะมาก กินไม่หมดเลยครับ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 150 บาทชามนี้
ขากลับนั่งรถเมล์กลับมาเหมือนเดิม มาถึงมืดเลย ง่วงก็ง่วง แต่ถึงห้องต้องชาร์ตแบตกล้องแบบที่เห็นในภาพ

ครูเข้ามาตรวจห้องถึงกับอุทาน "Factory" ผมนี่แหละโรงงานเคลื่อนที่

1 ความคิดเห็น:

  1. ้เข้ามาดูเพื่อย้อนอดีตเมื่อปี2012 ไปอบรมที่คานาอานเหมือนกัน ..เสื้อครูใหญ่คิมยังเหมือนเดิม ถ่ายรูปหน้าบรรไดยังเหมือนเดิม ไหกิมจิ ถ้ำเก็บมัน หินตั้งยังเหมือนเดิม เสียงเพลงประจำ รร.ยังคงดังแว่วอยู่ลึกๆ รู้สึกได้ว่าวันวานเกาหลีผ่านความรู้สึกใดมาบ้าง

    ตอบลบ