ครั้งนี้วางแผนการเดินทางไปที่ อ.ภูเรือก่อน จากนั้นก็ไปพักที่ อ.เชียงคาน และถึงเป้าหมายที่ อ.ปากชม โดยใช้เส้นทางเข้าสู่ทาง อ.ด่านซ้ายของจังหวัเลย ซึ่งผ่านร้านอาหารประจำที่ผมต้องแวะเสมอ นั่นคือ "ร้านเข็มทอง" ซึ่งคราวนี้แม่ครัวป่วยไป 2 คน อาหารเลยเสริฟช้ามาก
และที่แย่ก็คือ ทริปนี้ อากาศไม่หนาว แล้วยังฝนตกอีก ความประทับใจจึงลดลงเล็กน้อย แต่ก็สนุกครับ
แวะซื้อฟักทองที่ร้านเข็มทอง เขานึ่งมาให้ชิม อร่อยมาก
คุณอู๊ดกับน้องนุช ที่ชิงช้าร้านเข็มทอง
ใบไม้สีขาว ต้นอะไรไม่รู้ ถ่ายเก็บไว้ เพราะเห็นว่าสวยดี
เมื่อมาถึง อ.ภูเรือ เราแวะชมที่ ชาโต้ เดอ เลย ไวเนอรี่ ซึ่งอยู่ก่อนอ.ภูเรือ ประมาณ 10 กม.
แวะชมชาโต้ เดอ เลย ที่ อ.ภูเรือ
แหล่งผลิตไวน์คุณภาพของจังหวัดเลยมีทั้งไวน์ขาว และไวน์แดง
โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์เทศกาลไม้ดอกเมืองหนาวที่ อ.ภูเรือ วันที่ 29 ธค.-3 มค. ปีหน้า
ทางหน้าอำเภอกำลังจัดไม้ดอกเตรียมต้อนรับเทศกาล
ผมมา อ.เชียงคาน เป็นครั้งที่สาม ในรอบ 3 เดือน เรียกได้ว่ามาทุกเดือน มา 3 ครั้ง พัก 3 ที่ เลยครับ เพราะที่พักเต็ม แม้จะจองเป็นเดือนก็ตาม ได้นอนเต้นท์ครับ
ที่ อ.เชียงคาน เราพักที่บ้านของคุณมั่น เพราะที่พักเต็ม
นอนกันข้างบ้านอย่างนี้แหละครับ
ช่วงเย็นๆ หัวค่ำไปเดินเล่น ก็๋เจอกับนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพนับหมื่น
แย่งกันกินแย่งกันเที่ยว ท่ามกลางอากาศร้อน แต่ไม่มาก ที่ อ.เชียงคาน
ไม่รู้มาจากไหนกันบ้าง แน่นไปแทบทุกร้าน
เช้าต่อมา เราก็ขับรถขึ้นไปชมบรรยากาศ วิวทะเลหมอก บนภูทอก ซึ่งห่างจาก อ.เชียงคาน แค่ 4 กม. แน่นอนว่ามีรถเพียบเช่นกัน (ต่อไปจะไม่เที่ยวช่วงเทศกาลอีกแล้ว)
บนภูทอกไม่สูงมาก ขับรถแป๊บเดียวก็ถึง พอมีวิวสวยๆ ให้ถ่ายภาพบ้าง
ผมกับลูกชายคนโตดั้นด้นไปจนถึง และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
หลังจากนั้น เราก็ไปชม "แก่งคุ้ดคู้" ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่า แค่เดือนเดียว น้ำโขงแห้ง จนมองเห้นทรายที่แม่น้ำโขง
แม่น้ำโขงแห้งจนหนหาดทราย กลายเป็๋นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว
อีกมุึมหนึ่ง
สุดท้ายเราก็มาถึงจุดเป้าหมาย นั่นก็คือ อ.ปากชม ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผมจะต้องบรรยาย ด้านหลังของที่บรรยายมีแหล่งน้ำธรรมชาติ เด็กๆ ที่มาร่วมในคณะเดินทางจึงยึดพื้นที่ใช้เป็นที่เล่นน้ำตามภาษาเด็ก
ลำน้ำธรรมชาติที่ อ.ปากชม ไหลจากภูเขาสู่แม่น้ำโขง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น