ค้นหาที่เที่ยวในบล็อกนี้

21 เมษายน 2557

กู่พระโกนา - กู่กาสิงห์ - ปราสาทหินพิมาย (18 เมย.)

เดินทางจากบ้านมาทาง อ.สุวรรณภูมิ แล้วเลี้ยวขวามา ก็เจอ "กู่พระโกนา" ครับ
ทริปวันที่สี่เป็นวันสุดท้าย คือจะต้องกลับบ้านแล้ว (ออกจากบ้านบ่ายโมงตรง) ก็เล็งไว้ว่าจะไปเก็บภาพที่ "กู่กาสิงห์" เป็นที่แรก ซึ่งเมื่อจะไปจริง ก็พบอีกเส้นทางหนึ่ง โดยไปเลี้ยวซ้ายจาก อ.สุวรรณภูมิ ไปทางซ้าย ก็ไปพบ "กู่พระโกนา" ก่อน ชาวบ้านเรียกที่นั่นว่า "กู่ลิง" เพราะมีลิงเยอะ

กู่แห่งนี้อยู่ภายในวัด ไม่ใหญ่มาก เดินแป๊บเดียวก็ดูหมด และมีลิงให้ถ่ายภาพ และให้อาหารพวกมันด้วย

จาก "กู่พระโกนา" ก็ไปตามทางที่ป้ายบอก อีกประมาณ 17 กม. เพื่อไปยัง "กู่กาสิงห์" ซึ่งเป็นซากปราสาทน่าจะรุ่นเดียวกับกู่พระโกนา และใช้หินภูเขาไฟแบบที่พนมรุ้งเสียด้วย ยังอยู่ในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด

กู่กางสิงห์ จะดูเป็นปราสาท และมีพื้นที่พอสมควร มีป้ายบอกทางตลอด รับรองไม่หลงทาง

ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก

และทริปสุดท้ายจบที่ "ปราสาทหินพิมาย" ครับ เคยไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เวลาผ่านไป ที่นี่ก็ยังคงเหมือนเดิม น่าประทับใจในความเจริญของบ้านเมืองในอดีต ในภูมิภาคแห่งนี้ครับ

ขับรถมาใช้เวลานานเลยครับ กว่าจะมาถึงก็ 5 โมงเย็นเลย

อาณาบริเวณของปราสาทหินพิมาย
 
ถ่ายภาพช่วง 5 โมงเย็น แสงน้อยไปหน่อย แต่ก็ยังสวยครับ

ท่านใดสนใจออกทริปแบบนี้ยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลการเดินทางครับ

ดอนหินตั้ง (ถ่ายภาพอาทิตย์ขึ้น) - ผาแต้ม - น้ำตกแสงจันทร์ (ลงรู) - แก่งสะพือ (17 เมย.)

วันที่สามยังพักอยู่ที่โขงเจียมครับ อยู่ริมแม่น้ำโขงเลย ตอนเช้าก็แวะมาถ่ายรูปดวงอาทิตย์ที่ริมฝั่งโขง ที่ดอนหินตั้ง วิวสวยมากๆ เลยครับ

เหมาะกับถ่ายรูปตอนเช้าอย่างยิ่งครับ ที่ดอนหินตั้ง

อาทิตย์ขึ้นที่โขงเจียม (ถ่ายที่ดอนหินตั้ง)

ใช้รีโมทถ่าย

จากนั้นเราก็มาทานอาหารเช้าที่ตลาด

อาหารเข้าที่ตลาดโขงเจียม ไข่กระทะ กับก๋วยจั๊บญวน

ออกจากโขงเจียมไป อช.ผาตั้ง แค่ครึ่งชม.เองครับ

และต่อไปยัง "ผาแต้ม" โดยเสียค่าเข้าชมอุทยานคนละ 20 บาท โดยแวะชม "เสาเฉลียง" ก่อน ถึงจะขับรถไปจอดบนลานหินขนาดใหญ่ และไปเดินชมวิวแม่น้ำโขงอีก และเดินชมภาพวาดสีโบราณยุคมนุษย์หินเลยก็ว่าได้

เส้นทางสู่ผาแต้ม จะต้องผ่าน "เสาเฉลียง" ก่อน แวะถ่ายภาพ ชมวิวกันหน่อย

มีมุมให้ถ่ายเยอะเลยครับ และเดินไม่เหนื่อยเท่าไหร่

ต่อจากนั้นเราก็ไปผาแต้มกันต่อ

ระยะทางเดินโดยรอบของการชมผาแต้ม 3,800 เมตร หรือประมาณ 2 ชม. กว่า เตรียมน้ำไปด้วยก็ดีครับ

ใช้เวลาที่ "ผาแต้ม" จนเกือบเที่ยง หาน้ำดื่มเรียบร้อย ไปเที่ยว "น้ำตกแสงจันทร์" หรืออีกชื่อหนึ่ง "น้ำตกลงรู" ที่มีชื่อเสียงของอุบลฯ แม้จะผิดหวังที่ไม่มีน้ำตกลงรูให้เห็น แต่ก็น่าประทับใจกับธรรมชาติที่นั่น

วิ่งไปทางเหนือ สังเกตป้ายตลอดทาง ขับผ่านหมู่บ้าน ดุไม่เหมือนไปอุทยาน

สวยดีครับ ถึงไม่มีน้ำตกให้ดู แต่ก็รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่และสวยงาม

จากนั้นก็หาที่เล่นน้ำ ตกลงกันว่าจะไป "แก่งสะพือ" แต่พอไปถึงแค่ได้นั่งกินข้าวเฉยๆ เพราะน้ำนิ่งไม่น่าเล่น พอมีแต่เด็กๆ ลงเล่นน้ำให้เห็นเล็กน้อย

พวกเราเลือกไป "แก่งสะพือ" เพราะได้ยินชื่อเสียงมานาน

แก่งสะพือ อยู่ในตัวอำเภอพิบูลมังสาหารเลยครับ

วันที่ไปน้ำน้อยไปหน่อย ไม่น่าเล่น เลยแค่กินข้าวเฉยๆ

ทริปของวันนี้เลยมาจบที่ร้อยเอ็ด กลับไปพักที่บ้านญาติที่บ้านขมิ้น อ.หนองฮี จ.ร้อยเอ็ด

ปลายทางของวันที่สาม กลับมาถึงร้อยเอ็ด เกือบ 2 ทุ่ม

ขี่จักรยานรอบอ่างเก็บน้ำหมู่บ้าน - แม่น้ำสองสี - ดอนหินตั้ง - ช่องเม็ก - เขื่อนสิรินทร - วัดถ้ำคูหาสวรรค์ (16 เมย.)

ช่วงเช้าของวันที่สอง ตื่นแต่เช้า ยังอยู่ที่ร้อยเอ็ด มาขี่จักรยานเล่นใกล้ๆ บ้านพักของญาติ ซึ่งมีอ่างเก็บน้ำของหมู่บ้าน เรียกเหงื่อได้พอสมควร

ที่อ่างเก็บน้ำ มีถนนเล็กๆ อยู่รอบอ่าง ขี่จักรยานเล่นได้สบายเลยครับ

อากาศยามเช้าเย็นสบาย แม้ว่าจะเป็นหน้าร้อน
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ก็วางแผนเดินทางสู่ "อ.โขงเจียม" เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ และแห่งแรกที่จะไปชมก็คือ "แม่น้ำสองสี" ครับ

เดินทางข้ามหลายจังหวัด กว่าจะมาถึงโขงเจียม ประมาณ 4 ชม.กว่าๆ
  
ที่แวะเที่ยวในอ.โขงเจียมครับ แม่น้ำสองสี ก็อยู่ที่นั่นด้วย

จุดชมวิวแม่น้ำสองสี อยู่ในวัดโขงเจียม
หลังจากเที่ยวชม "แม่น้ำสองสี" แล้ว ก็ต้องหาที่พักก่อนครับ ก็ได้ที่ริมโขงนั่นเอง พักได้ 6 คน เลยครับ ห้องใหญ่ดีมาก จากนั้นก็หาอาหารกลางวันกินกัน และแวะถ่ายภาพที่ "สวนสาธารณะดอนหินตั้ง" ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักนั่นเอง

เป็นสวนอยู่หน้าโรงพักโขงเจียม และริมแม่น้ำโขง มีก้อนหินใหญ่อยู่ริมแม่น้ำ ลงไปเดินเล่นได้

จากนั้นก็มุ่งสู่ "ช่องเม็ก" ด่านผ่านทางไปสู่ "สปป. ลาว" ไม่ได้ข้ามไปลาวหรอกครับ แต่ขับรถไปชมบรรยากาศเฉยๆ

จากโขงเจียมไปช่องเม็ก ประมาณชั่วโมงกว่าๆ

พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นร้านค้า ปลายขวาสุดคือจุดผ่านแดนไปลาว
 
เป็นจุดผ่านแดนไทย-ลาว มีสินค้าขายมากมาย

แล้วก็วกกลับมาเพื่อไปแวะชม "เขื่อนสินิทร" เพิ่งไปครั้งแรก เลยเข้าไปชมภายในจึงรู้ว่าเป็นสวนสาธารณะด้วย คือ "สวนสิรินทร"

ช่องเม็กกับเขื่อนสิรินทรอยู่ใกล้กัน แวะที่ช่องเม็ก ก็ดีเหมือนกัน

ที่นี่เป็นสวน แต่ก็เล่นน้ำได้นะครับ แต่ไปอีกที่ดีกว่า
  
ที่นี่จัดทำเป็นสวนหย่อมด้วย

แต่สุดท้ายก็หาที่เล่นน้ำดีกว่าเพราะร้อนมาก เลือกไป "หาดพัทยา สิรินทร" เป็นหาดที่เกิดจากน้ำเขื่อน มีการสร้างแพลอยน้ำขึ้นมา สามารถไปนั่งพัก และสั่งอาหารมากินได้ เล่นน้ำไป กินไป เพลินดีครับ

แพริมน้ำ มีตลอดแนวถนน

ห่างจากเขื่อนสิรินทร ประมาณ 7 กม.
  
น้ำจืด เล่นสนุก เล่นเสร็จแล้วไม่ต้องล้างตัวอีก

ขากกลับมาที่พักในโขงเจียม แวะชมวิวที่ "วัดถ้ำคูหาสวรรค์" ซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำโขงในมุมที่สูงขึ้นไปอีกได้ครับ จบทริปวันที่สอง ไปได้หลายที่เลยทีเดียว

ขากลับไปที่พัก แวะที่นี่ชมอาทิตย์ตก และวิวแม่น้ำโขง

วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา ชมวิวแม่น้ำโขงกำลังสวยเลยครับ

ตลาดน้ำทุ่งบัวชม - จุดชมวิวเขื่อนลำตะคอง (15 เมย.)

เริ่มต้นออกจากบ้านก่อนครับ เส้นทางที่ใช้คือถนนพหลโยธินครับ มุ่งสู่สระบุรี จุดแวะแห่งแรกคือ "ตลาดน้ำทุ่งบัวชม" ครับ เป็นตลาดน้ำที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นจุดพักแวะกินข้าว หรือซื้อของที่ระลึก ดูสบายๆ ถ่ายภาพเล่นได้หลายมุมเลยครับ

ตลาดทุ่งบัวชม อยู่แถวอ.วังน้อย นะครับ มีป้ายบอกตลอดทาง แวะชมได้ถ้ามีเวลาครับ

ย่า-หลาน นักท่องเที่ยว

มีอะไรแปลกๆ ให้ถ่ายภาพเก็บไว้

เอาใจแฟนหนังดังครับ มุมถ่ายรูปเท่ห์ๆ

เหมือนตลาดน้ำยุคใหม่ทั่วๆ ไป

ที่นี่ออกแบบให้เหมือนตลาดน้ำ

บรรยากาศโดยรวม ใช้ได้เลยครับ สบายๆ

ที่นั่งทานอาหารมีโดยรอบ


หลังจากกินข้าว ถ่ายภาพเล่นๆ หลายๆ มุมจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็เดินทางต่อครับ ถึงสระบุรีแล้วเลี้ยวขวา ไปเส้นทางถนนมิตรภาพ ซึ่งยังไงๆ ก็ต้องผ่านเชื่อนลำตะคอง จึงต้องแวะเก็บภาพเช่นเคยครับ ถือเป็นการพักรถไปในตัวด้วย

จากตลาดน้ำมาจุดชมวิวเขื่อน ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเหมือนกัน พักสักหน่อย

เขื่อนใหญ่มาก วิวสวย








แวะถ่าภาพที่จุดชมวิว


แวะถ่ายภาพเสร็จก็เดินทางต่อมุ่งสู่ร้อยเอ็ด ในเส้นทางไปยโสธร เนื่องจากหมู่บ้านที่ผมไปไม่ได้ผ่านตัวเมืองของร้อยเอ็ด จึงใช้เส้นทางนี้โดยตรง และพักผ่อน 1 คืนที่ร้อยเแ็ด พูดคุยกับญาติสนิทที่นานๆ จะพบกันในช่วงเทศกาลแบบนี้

ขับยาวเลยครับ ใช้เวลาประมาณ 4 ชม.กว่า แวะกินข้าวข้างทางด้วย
ร้านนี้ครับ อร่อยมากๆ ระหว่างทางเดินทางไปครับ ไม่แน่ใจว่าจุดไหน
 
ผักสดๆ

ลาบเป็ด
ปลานิลทอด
 
กินกับยำมะม่วง

ให้เยอะมาก จนต้องห่อกลับไปกินต่อที่บ้าน