ค้นหาที่เที่ยวในบล็อกนี้

24 ตุลาคม 2557

จากกรุงเทพฯ สู่หนองคาย เพื่อไปเที่ยวนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว

เป็นการเดินทางอีกครั้งเพื่อไปลาว หลังจากที่ได้นำเสนอการเดินทางไปลาวในหลากหลายวิธี ตั้งแต่การนั่งรถไฟ หรือนั่งเครื่องบินมาลงอุดรต่อรถมาที่ด่าน

มาคราวนี้ผมเลือกเดินทางด้วนรถประจำทาง และเมื่อดูจากเว็บไซต์แนะนำ จึงเลือกเดินทางกับ "นครชัยแอร์" ใช้เวลาเดินทางเกิือบ 10 ชม.

ที่นั่งขนาดใหญ่ มีหนังให้ดูตลอดการเดินทาง นั่งยาวเกือบๆ 10 ชม.
หลับๆ ตื่นๆ ก็ถึงตอนเช้า ออก 3 ทุ่ม ถึง 7 โมง
เมื่อมาถึงหนองคายก็ต้องไปทำหนังสือผ่านแดนของเพื่อนที่ไปด้วย ส่วนผมมีพาสปอร์ต ไม่ต้องทำหนังสือ เข้าไปที่ด่านได้เลย (รายละเอียดการเข้าด่านเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา)

เมื่อถึงสถานี ต่อรถไปด่าน สอบถามราคาก่อนขึ้นนะครับ
ปกติคนละ 50 บาท ระยะทางประมาณ 5 กม.
(ถามก่อนขึ้นนะครับ เพราะไม่เช่นนั้นโดนชาร์ตราคาแน่นอน)

หนังสือผ่านแดนชั่วคราว ค่าดำเนินการ  150 บาท / 1 ฉบับ
เมื่อข้ามด่านเรียบร้อยหารถโดยสารเข้าเมืองหลวง จะเช่าเหมาคัน หรือหารถโดยสารประจำทางก็ได้ครับ ส่วนผมมีเพื่อนที่ลาวมารับและพาเที่ยวเลยสบายหน่อย

จากด่านเข้าเมืองสู่เมืองหลวง ระยะทางประมาณ 20 กม.

ที่เที่ยวในเมืองเป็นพิพิธภัณฑ์ วัด  และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์

หอพระแก้ว และวัดสีสะเกด อยู่ติดกัน ใช้เวลาเยี่ยมชมไม่นาน เสียค่าเข้าคนละ 20 บาท หรือ 5,000 กีบ

หอพระแก้ว
คือสถานที่เคยประดิษฐาน พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ตั้งอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ปัจจุบันเหลือเพียงพระแท่นที่ประดิษฐาน เพราะพระแก้วมรกตองค์ปัจจุบันได้รับการอัญเชิญลงมาประทับที่กรุงเทพมหานครในสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โดยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นผู้อัญเชิญ

ต้องแต่งกายสุภาพนะครับ อย่าใส่ขาสั้นสำหรับผู้หญิง
ต้องเช่าผ้าซิ่นนุ่งเข้าไปชม

นักท่องเที่ยวถ่ายภาพได้แต่ด้านนอก เพราะภายในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ หรือสวมหมวก

พระพุทธรูปรอบหอพระแก้ว







วัดสีสะเกด
วัดสีสะเกด หรือ วัดสะตะสะหัดสาราม ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ ติดกับหอคำ พระราชวังหลวงของกษัตริย์ลาวสมัยก่อนสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2094 โดยพระเจ้าโพธิสารราช พระบิดาของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ในศตวรรษที่ 16

ในระยะที่ 2 วัดสิสะเกด สร้างขึ้นในวัดพฤหัสบดี ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 3 ปีขาน พ.ศ. 2361 โดย เจ้าอนุวงศ์กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ล้านช้างเวียงจันทน์ ถือว่าเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่ง ในนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งอยู่ในระหว่างศึกสงครามหลายยุคหลายสมัย และเป็นวัดเดียว ที่ไม่เคยถูกทำลายเหมือนวัดอื่น ๆในเวียงจันทน์ หลังจากสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2367 พระเจ้าอนุวงศ์ก็ได้นำพาประชาชนลาวบำเพ็ญบุญกุศุลเฉลิมฉลองเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน

สิ่งที่ได้ก่อสร้างพร้อมกันนี้มี หอพระไตรปิฎก

เดินข้ามฝั่งมา ซื้อตั๋วเข้าชมอีกครั้ง

บรรยากาศเหมือนกับวัดในไทยเช่นกัน
ประตูชัย
สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้า การปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ประตูชัยแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า รันเวย์แนวตั้ง เพราะการก่อสร้างประตูชัยแห่งนี้ ใช้ปูนที่อเมริกาซื้อเพื่อนำมาสร้างสนามบินใหม่ในนครเวียงจันทน์ในระหว่าง สงครามอินโดจีน แต่ไม่ทันได้สร้างเพราะอเมริกาแพ้สงครามในอินโดจีนเสียก่อน จึงนำปูนซีเมนต์มาสร้างประตูชัยแทน ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมในสมัยนั้น แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย บันไดวันให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์ บนยอดของประตูชัยอีกด้วย ตลอดบันไดวนของประตูชัยจะแบ่งออกเป็นชั้นๆ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น