เป็นการเดินทางอีกครั้งเพื่อไปลาว หลังจากที่ได้นำเสนอการเดินทางไปลาวในหลากหลายวิธี ตั้งแต่การ
นั่งรถไฟ หรือ
นั่งเครื่องบินมาลงอุดรต่อรถมาที่ด่าน
มาคราวนี้ผมเลือกเดินทางด้วนรถประจำทาง และเมื่อดูจากเว็บไซต์แนะนำ จึงเลือกเดินทางกับ
"นครชัยแอร์" ใช้เวลาเดินทางเกิือบ 10 ชม.
|
ที่นั่งขนาดใหญ่ มีหนังให้ดูตลอดการเดินทาง นั่งยาวเกือบๆ 10 ชม. หลับๆ ตื่นๆ ก็ถึงตอนเช้า ออก 3 ทุ่ม ถึง 7 โมง |
เมื่อมาถึงหนองคายก็ต้องไปทำหนังสือผ่านแดนของเพื่อนที่ไปด้วย ส่วนผมมีพาสปอร์ต ไม่ต้องทำหนังสือ เข้าไปที่ด่านได้เลย (รายละเอียดการเข้าด่านเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา)
|
เมื่อถึงสถานี ต่อรถไปด่าน สอบถามราคาก่อนขึ้นนะครับ ปกติคนละ 50 บาท ระยะทางประมาณ 5 กม. (ถามก่อนขึ้นนะครับ เพราะไม่เช่นนั้นโดนชาร์ตราคาแน่นอน) |
|
หนังสือผ่านแดนชั่วคราว ค่าดำเนินการ 150 บาท / 1 ฉบับ |
เมื่อข้ามด่านเรียบร้อยหารถโดยสารเข้าเมืองหลวง จะเช่าเหมาคัน หรือหารถโดยสารประจำทางก็ได้ครับ ส่วนผมมีเพื่อนที่ลาวมารับและพาเที่ยวเลยสบายหน่อย
|
จากด่านเข้าเมืองสู่เมืองหลวง ระยะทางประมาณ 20 กม. |
|
ที่เที่ยวในเมืองเป็นพิพิธภัณฑ์ วัด และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ |
|
หอพระแก้ว และวัดสีสะเกด อยู่ติดกัน ใช้เวลาเยี่ยมชมไม่นาน เสียค่าเข้าคนละ 20 บาท หรือ 5,000 กีบ |
หอพระแก้ว
คือสถานที่เคยประดิษฐาน พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ตั้งอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ปัจจุบันเหลือเพียงพระแท่นที่ประดิษฐาน เพราะพระแก้วมรกตองค์ปัจจุบันได้รับการอัญเชิญลงมาประทับที่กรุงเทพมหานครในสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โดยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นผู้อัญเชิญ
|
ต้องแต่งกายสุภาพนะครับ อย่าใส่ขาสั้นสำหรับผู้หญิง ต้องเช่าผ้าซิ่นนุ่งเข้าไปชม |
|
นักท่องเที่ยวถ่ายภาพได้แต่ด้านนอก เพราะภายในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ หรือสวมหมวก |
|
พระพุทธรูปรอบหอพระแก้ว |
วัดสีสะเกด
วัดสีสะเกด หรือ วัดสะตะสะหัดสาราม ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ ติดกับหอคำ พระราชวังหลวงของกษัตริย์ลาวสมัยก่อนสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2094 โดยพระเจ้าโพธิสารราช พระบิดาของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ในศตวรรษที่ 16
ในระยะที่ 2 วัดสิสะเกด สร้างขึ้นในวัดพฤหัสบดี ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 3 ปีขาน พ.ศ. 2361 โดย เจ้าอนุวงศ์กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ล้านช้างเวียงจันทน์ ถือว่าเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่ง ในนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งอยู่ในระหว่างศึกสงครามหลายยุคหลายสมัย และเป็นวัดเดียว ที่ไม่เคยถูกทำลายเหมือนวัดอื่น ๆในเวียงจันทน์ หลังจากสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2367 พระเจ้าอนุวงศ์ก็ได้นำพาประชาชนลาวบำเพ็ญบุญกุศุลเฉลิมฉลองเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน
สิ่งที่ได้ก่อสร้างพร้อมกันนี้มี หอพระไตรปิฎก
|
เดินข้ามฝั่งมา ซื้อตั๋วเข้าชมอีกครั้ง |
|
บรรยากาศเหมือนกับวัดในไทยเช่นกัน |
ประตูชัย
สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้า การปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ประตูชัยแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า รันเวย์แนวตั้ง เพราะการก่อสร้างประตูชัยแห่งนี้ ใช้ปูนที่อเมริกาซื้อเพื่อนำมาสร้างสนามบินใหม่ในนครเวียงจันทน์ในระหว่าง สงครามอินโดจีน แต่ไม่ทันได้สร้างเพราะอเมริกาแพ้สงครามในอินโดจีนเสียก่อน จึงนำปูนซีเมนต์มาสร้างประตูชัยแทน ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมในสมัยนั้น แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย บันไดวันให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์ บนยอดของประตูชัยอีกด้วย ตลอดบันไดวนของประตูชัยจะแบ่งออกเป็นชั้นๆ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก