พายเรือเข้าถ้ำ ตามหาบากูที่ถ้ำผีหัวโต อ่าวลึก กระบี่

ผมมีโอกาสไปที่ "ถ้ำผีหัวโต" เพราะเพื่อนจ้างไปถ่ายภาพการท่องเที่ยวด้วยเรือแคนนู คือนักท่องเที่ยวต้องพายเรือไปเที่ยวตามเส้นทาง จนไปถึงถ้ำ

"ถ้าผีหัวโต" อยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ซึ่งเป็นถ้ำในภูเขาที่มีห้วงน้ำล้อมรอบ ภายในถ้ำแบ่งได้เป็น 2 คูหาขนาดใหญ่ มีภาพเขียนศิลปะดั้งเดิม เขียนด้วยสีแดง ดำ เหลือง น้ำตาล น้ำตาลเหลือง น้ำตาลแดงหรือน้ำตาลเข้ม สามารถแบ่งภาพเขียนตามบริเวณที่พบได้ 23 กลุ่ม จำนวน 238 ภาพ สภาพของถ้ำโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงสว่างส่องเข้าไปถึงสามารถชมภาพเขียนได้ชัดเจน ภายในถ้ำยังมีเปลือกหอยแครงจำนวนมากทับถมกันอยู่จนกลายเป็นหิน

จากการพิจารณาภาพเขียนโดยส่วนรวมแล้ว  จะเห็นได้ว่ากลุ่มชนนี้คงมีการประกอบพิธีกรรมทางความเชื่อทางด้านไสยศาสตร์ โดยมีพ่อมดหมอผี  การดำรงชีวิตเป็นไปอย่างง่ายๆ  โดยการจับสัตว์น้ำเป็นอาหาร  ประกอบกับการหาของป่าและมีการเดินทางโดยใช้เรือเดินทางติดต่อกับกลุ่มชนอื่นอย่างกว้างขวาง  ทั้งนี้เพราะว่าได้พบเครื่องมือหิน  เศษภาชนะดินเผา  โครงกระดูกสัตว์ต่างๆ  มากมาย  ในบริเวณนี้ จึงอาจกล่าวได้ว่ากลุ่มชนบริเวณถ้ำผีหัวโตเป็นสังคมสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่กระจัดกระจายอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ทั่วไปในบริเวณอ่าวพังงา

หลังจากกลับมาพบก็เอาการเดินทางครั้งนั้นมาเขียนเป็นนิยายครับ เรื่อง "สิมิลัน กราภูงา" และสมมติว่าสถานที่แห่งนี้คือที่กักขังผู้มีฤทธิ์ นั่นคือ "ฤาษี" ที่นั่นมีหินย้อยรูปฤษษีด้วย ผมก็ตั้งชื่อว่า "บากู" ซึ่งแปลว่า "อาจารย์" และเรียกบากูท่านนี้ว่า "โมถ่าย" มาจากชื่อหมู่บ้านที่ขัยรถผ่าน ชอบชื่อนี้ครับ เพราะพอเขียนเป็นภาษาอังกฤษมั้นเข้าท่าดี "MO-THAI" ไปดูภาพสถานที่แห่งนี้กันครับ

ต้องเช่าเรือพายไปเองครับ

เรือลำนี้ผมขอจอง

นักท่องเที่ยวชอบมาก

วันนั้นมีหลายกลุ่มไปพายเรือ (ดูจากสีของเรือ)

กำลังจะเข้าถ้ำรอด

พายเรือลอดถ้ำ

ออกมาเจอภาพประทับใจ สวยมากๆ

ใครชอบการท่องเที่ยวแบบนี้ ต้องไม่พลาด

หินรูปเงือก ผมเอามาเขียนนิยาย และตั้งชื่อหินนี้ว่า "มัสยาฆาตี"
เป็นราชันแห่งชาวเงือก

เมื่อนำหินรูปเงือกมาออกแบบ
กลายเป็นอย่างนี้ครับ "มัสยาฆาตี"

ภาพวาดที่ผนังถ้ำ สื่อถึงความเชื่อโบราณ
เชื่อกันว่าคือผู้มีเวทย์ หรือหมอผี

เศษเปลือกหอยแครงที่ฝังแน่นอยู่ในหิน

น้ำหยดลงมากลายเป็นฐานหิน

หินก้อนนี้ดูดีๆ จะเหมือนหัวกะโหลกขนาดใหญ่ เขาเรียกว่า "ผีหัวโต"
ผมเอาแต่งใหม่ นี่คือหัวของ "สมุทตรา" ยักษ์ที่ถูกสาป

ยักษ์ "สมุทตรา" หรือ "ผีหัวโต"

ออกมายืนนอกถ้ำอีกด้าน จะมองเห็นวิวแบบนี้

นี่แหละครับ หินรูปฤาษี
ผมเรียกเขาว่า "บากูโมถ่าย" จอมขมังเทย์
ผู้ถูกสาปให้กลายเป็นหิน

นี่แหละครับ บากูโมถ่าย ผู้ถูกสาปให้กลายเป็นหิน

นั่งเรือเที่ยวอ่าวนาง ปีนหน้าผาไร่เลย์ ที่กระบี่

แนะนำที่เที่ยวอีกที่หนึ่งครับ คราวนี้ลงมาทางใต้บ้าง ผมขอแนะนำที่นี่ครับ "อ่าวนาง-ไร่เลย์" อยู่ที่จังหวัดกระบี่ครับ

การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถึงจังหวัดชุมพร จากชุมพรใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าอำเภอเวียงสระ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4035 ถึงอำเภออ่าวลึก แล้ววกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 อีก ถึงจังหวีดกระบี่ ระยะทาง 814 กม.

อ่าวนาง เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทะเลกระบี่ เป็นที่ตั้งของ รีสอร์ท ร้านอาหาร บริษัททัวร์ให้บริการนำเที่ยวเกาะที่มีชื่อต่างๆของกระบี่ เช่น ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะพี พี หมู่เกาะห้อง เป็นจุดเช่าเรือไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ได้แก่ หาดไร่เล ถ้ำพระนาง และเกาะต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยวในทะเลกระบี่

นั่งเรือออกจากฝั่งอ่าวนาง

เกาะปอดะ

แวะเล่นน้ำที่เกาะ

ฝรั่งเยอะครับ

เดี๋ยวนี้คนไทยก็เยอะเหมือนกัน

นั่งเรือมาเที่ยวเกาะ

อ่าวไร่เลย์ ไม่ใช่เกาะ แต่ต้องนั่งเรืออ้อมมาเที่ยว

อ่าวไร่เลย์

ที่ "หาดไร่เลย์" มีผาหินปูนมากมาย ซึ่งการปีนผาที่ ไร่เลย์ สามารถทำได้ทั้งปี โดยในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี จะมีการจัดกิจกรรม "ปีนผา" และบริเวณที่นิยมปีนผาคือบริเวณ ไร่เลย์ตะวันออก อ่าวต้นไทร และ เขาแถวถ้ำพระนางใน

นักท่องเที่ยวปีนหน้าผาเล่น

เมื่อรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ ทำยังไงดี?

แน่นอนครับว่า เมื่อต้องเดินทางด้วยรถไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ จะประสบปัญหาอย่างหนึ่งคือ "รถเสีย" ซึ่งอาจเกิดจากอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง หรืออะไหล่บางส่วนของรถที่หมดอายุพอดีในขณะที่เราเดินทางไปเที่ยวหรือทำงาน แล้วจะทำยังไงดี?

หากรถเสียเพราะอะไหล่หมดอายุพอดี ให้ใจเย็นๆ ครับ ลองค้นหาดูว่าส่วนไหนของรถเสียหายเช่น

• ยางรั่ว/ยางแบน
• สายคลัชขาด
• น้ำมันเครื่องรั่ว
• ฯลฯ

เกียร์ออโต้เสีย ต้องจ้างรถลากกลับกรุงเทพฯ จากเขาใหญ่

ยางแบน ก็หาร้านปะยาง ส่วนใหญ่อยู่ตามปั้มน้ำมัน

เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ออกต่างจังหวัด
ถ้าหมด ก็หาอู่ที่รับเปลี่ยนได้เลยไม่ต้องรอ

อันดับแรกที่ต้องทำคือ

1. จอดรถข้างทาง
2. ตรวจสอบอาการเสียหายว่าเกิดจากอะำไร
3. หาช่างมาซ่อม โดยสอบถามจากผู้คนใกล้ๆ ที่รถของเราเสีย
4. โทร.บอกญาติพี่น้องหรือเพื่อนที่ติดต่อได้

พบว่าสายคลัชขาด

จอดข้างทาง และโทรหาช่างโดยสอบถามจากคนแถวนั้น

แต่หากเกิดอุบัติเหตุที่ตัวรถ ให้โทร.หาประกันเป็นอันดับแรก อย่าตกใจ ประกันช่วยได้จริงๆ ครับ ผมเคยประสบอุบัติเหตุรถชนสุนัขระหว่างเดินทางไปต่างจังหวัดช่วงตี 5 โทรเรียกประกันตอนเช้า สายๆ ประกันก็มา และส่งซ่อมรถที่อู่ใกล้ๆ ทิ้งรถไว้ 3 วันก็มารับรถได้เลย ตอนนั้นกำลังจะไปเชียงราย เหตุเกิดที่อุตรดิตถ์ ประกันภัยนี่ถือว่าสำคัญมากๆ ครับสำหรับการเดินทางไกลไปต่างจังหวัด

ขับชนสุนัขข้ามถนนตอนตี 5

คู่กรณีนอนอยู่กลางถนน พอสว่างหายไปไหนก็ไม่รู้?

หม้อน้ำแตกเลยครับต้องเปลี่ยน

โทรเรียกประกัน ส่งเข้าอู่ใกล้ที่เกิดเหตุ อีก 3 วันมารับรถ
ส่วนที่ไม่มีอะไหล่ มาหาใส่ที่กรุงเทพฯ เคลมเรียบร้อยถ้าประกันชั่น 1

ผมประสบปัญหาหลายรูปแบบสำหรับการเดินทางโดยรถยนต์ ที่สำคัญ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ แค่ตั้งสติให้ดีครับ แล้วค่อยๆ แก้ปัญหา การท่องเที่ยวจะสนุก แต่อาจสะดุดบ้าง ต้องทำใจ อย่าอารมณ์เสีย เพราะการเดินทางมีหลากหลายรูปแบบ รถยนต์เสีย ก็ลองเปลี่ยนมานั่งรถโดยสารประจำทาง รถไฟ เครื่องบิน ได้ทั้งนั้น ขอให้เที่ยวให้สนุกในทริปต่อไปนะครับ

เทศกาลดอกไม้บาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ 2555 (เชียงใหม่)

1 ธ.ค. 2555 - 28 ก.พ. 2556

ในช่วงงานอุทยานหลวงราชพฤกษ์จะจัดและตกแต่งสวนให้สวยงามด้วยดอกไม้เมืองหนาวและพรรณไม้นานาชนิดจากมูลนิธิโครงการหลวงที่เน้นความสวยงามแปลกตา เช่น ดอกทิวลิป ลิลลี่ คาเนชั่น บีโกเนีย พิทูเนีย บลูฮาวาย ดาเลีย เจอราเนียม ไฮเดรนเยีย ฯลฯ โดยคัดเลือกพันธุ์พิเศษและเพาะบนพื้นที่บนดอยสูงของโครงการหลวงที่มีอากาศหนาวเย็นเพื่อให้ได้ดอกที่สวยสมบูรณ์ งดงามน่าประทับใจและในขณะนี้ทางฝ่ายวิชาการและสวนได้เริ่มตกแต่งสวนแนวแกนกลางด้วยดอกกุหลาบและดอกไม้เมืองหนาวนานาพรรณเพื่อที่จะได้เบ่งบานสวยงามในช่วงฤดูหนาวนี้

การจัดงานครั้งนี้จะมีการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและการให้ความรู้ ประกอบด้วยนิทรรศการแสดงพระราชประวัติพระอัจฉริยภาพและพระราชกรณียกิจในทั้ง 3 พระองค์ การจัดฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ การจัดกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ การจัดแสดงทิวลิปคิงภูมิพล นิทรรศการ 80 พรรณไม้งามโครงการหลวงและนิทรรศการสายใยรัก นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมทางวิชาการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเกษตรและพฤกษศาสตร์พืชสวนไทยและพืชท้องถิ่นให้ความรู้เกี่ยวกับการลดภาวะโลกร้อนและเศรษฐกิจสีเขียว การให้ความรู้ในฐานเรียนรู้แก่เยาวชนทั่วไป รวมทั้งการถ่ายภาพเบื้องต้น และเพลิดเพลินกับการแสดงดนตรีในสวน (Music in the Garden) การแสดงวัฒนธรรมชนเผ่า การแสดงดนตรีพื้นเมือง การแสดงของสถาบันการศึกษาและชุมชนต่างๆ นอกจากนั้นอุทยานหลวงราชพฤกษ์ยังได้เตรียมกิจกรรมพิเศษในวันสำคัญต่างๆ อีกด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

โทรศัพท์ 053-114110-5 หรือทางเว็บไซต์ www.royalparkrajapruek.org
หรือ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ โทร 0 5324 8604, 0 5324 8607, 0 5330 2500

ผมเคยไปครั้งแรกในปี 2006 ครับ (เผลอแป๊บเดียวผ่านไป 6 ปีแล้ว) ดังนั้นจึงขอนำภาพเก่าๆ ที่เคยไปครั้งนั้นมาให้่ชมกัน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่ยังไม่เคยไปลองขับรถไปดูกันครับ เชียงใหม่ ไม่ไกลอย่างที่คิด ขัยรถเพลินๆ ที่พักมีให้เลือกหลายระดับ หลายราคา และหลายบรรยากาศ

ตัวอย่างบัตรเข้าชมงานปี 2006

นี่ก็อีกแบบ

แค่ริมรั้วก็สวยแล้ว

ทางเข้าสวน

ถ่ายบนเนินทางเข้าด้านนอก

วิวจากด้านนอก

ขึ้นมาถ่ายบนหอ เห็นวิวสวยเลย

อาคารแปลกตามาจากต่างประเทศ

มุมนี้ขับรถอ้อมมาด้านหลังสวน ขึ้นมาบนพระธาตุดอยคำ
แล้วถ่ายภาพลงมา สวยดีครับ

มุมนี้หายาก

สถานที่ใหญ่มาก จึงต้องมาเที่ยวงานนี้ 2วันเลย

รอถ่ายภาพคืนที่สอง

มีขบวนแห่แสงสีทุกคืน แต่ต้องรอจนค่ำ