ลูกชายชวนให้ไปแก่งกระจานเพื่อไปขับรถแข่ง เราเลยเริ่มเดินทางตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 ตค. ออกจากกรุงเทพฯ ช่วงบ่าย ในฐานะคนชอบวางแผนการท่องเที่ยว เลยเลือกเส้นที่ไม่คุ้นเคยอย่างบางตะบูน
ต้องยอมรับว่ารีวิวในโลกโซเชียลมีส่วนสำคัญในการเลือกเส้นทาง ได้ยินชื่อมานาน บางตะบูน ดูรีวิวใน GPS เพื่อเลือกร้านอาหาร ร้านริมทะเล บางตะบูน พอไปนั่งจะสั่งอาหาร มองดูแม่ค้าหายไป ไปถ่ายรูปสะพาน 2-3 ภาพก็เปลี่ยนร้านดีกว่า เพราะลูกค้ารอออเดอร์อีก 2 โต๊ะ ของเราคงนาน
เปลี่ยนร้านมาที่ ครัวเลี้ยงหอย ขับรถข้ามสะพานมาตาม GPS ได้เลย ถนนแคบๆ หน่อย ไม่หลงแน่นอน มาถึงก็เจอที่จอดรถกว้างขวางพอสมควร ร้านอยู่ริมน้ำ มองเห็นวิว กระเตง ซึ่งเป็นบ้านพักกลางทะเลสำหรับชาวประมง มองเห็นปากอ่าวบางตะบูน และกระเตง
ขณะที่เรานั่งรออาหาร ก็มีเรือแล่นตลอดเวลาเสียงดังพอสมควร เคยไปอ่านรีวิวส่าคนมาพักย่านนี้นอนไม่หลับเพราะเสียง ก็คงต้องเลือกครับ มาเรามาพักแบบนี้ก็ควรศึกษาเรื่องสภาพแวดล้อม แต่คนที่นี่เขานอนหลับกันนะครับ
แต่ก่อนคนไม่ค่อยรู้จัก เพราะเป็นเมืองปากออ่าว พอมีสะพานข้ามไปถึงชะอำได้ ผู้คนก็เริ่มมาเยี่ยมเยือน
เมนูแนะนำของที่นี่คงเป็น ปลาทูแดดเดียว ทอดมาร้อนๆ กรอบนุ่ม ออกเค็มๆ ตามวิถีของปลาทู คิดถึงน้ำพริกกระปิ ถ้ามีด้วยคงเข้ากัน
อีกเมนูคือ ก้ามปูใบ้ ที่มีแต่ก้ามปูเพราะเนื้อมันน้อย มาร้อนๆ เต็มจานแบบนี้ น้ำจิ้มซีฟู้ดของที่นี่จะออกหวานตามสไตล์ของเพชรบุรี คนที่ชอบแซ่บๆ อาจไม่ถูกใจ แต่ผมโอเค ลองรสชาติที่ไม่คุ้นลิ้นบ้าง
เปลือกหอยแคงเขาเอามาเทพื้น ก็สวยดี ที่นี่เขาเลีี้ยงหอยอยู่ 4 ประเภท คือ หอยแครง หอยตลับ หอยแมลงภู่ และหอยนางรม
ใช้เวลากินอาหารเช้า+กลางวันใน 1 ชั่วโมง ก็ออกเดินทางต่อ ปักหมุดไปชะอำ แต่เลือเส้นทางเลียบชายทะเล ซึ่งอยู่ทางซ้ายของถนน เจอจุดแวะแรก เลี้ยวเข้าไปดูสุกนิด เพราะไม่ได้รีบ
จุดชมวิวหาดทรายเม็ดแรก ปลายแหลมหลวง ถนนไปถึงทะเลเลย เจอคนมากางเต็นท์ด้วย ชายหาดไม่ค่อยมีทรายเท่าไหร่ แต่ก็สวยพอที่จะเก็บภาพได้
เดินทางต่อถึงที่พักที่จองผ่าน Agoda เป็นที่พักที่ดัดแปลงจากตึกแถว OYO 394 Nana Beach Cha Am ราคาไม่แพงห้องใหญ่อยู่แต่ไม่มีลิฟท์ เราได้พักชั้น 3 พอขึ้นไหว ขอเสียของการจองแบบนี้คือมักจะได้ห้องในสุดวิวด้านหลังอาคาร
ได้ห้องพักแล้ว ก็ออกมาเดินเล่นริมทะเลก่อนมืด ช่วงปลายเดือนตุลา น้ำทะเลกำลังจะใสเพราะกำลังเข้าสู่หน้าหนาว (ที่ไม่หนาว) เป็นช่วงฤดูที่เปลี่ยนผ่าน
กลางคืนนอนไม่หลับมาเดินเล่นอีกรอบ ที่นี่มืดสนิทมาก มาตอนเช้าดูอาทิตย์ขึ้นอีกรอบดีกว่า
อาทิตย์ของวันนี้ติดเมฆ เลยได้ภาพแบบนี้ จะว่าไปชะอกเหนือตอนนี้กับบางแสนก็เหมือนกันเลย คือเก้าอี้ผ้าใบเยอะมากๆ
เช้าวันเสาร์ที่ 26 ตค. เราหาข้าวเช้ากินไม่ได้เลย มาจบที่ปั๊ม ปตท.ลุงเท่ง (ขาขึ้นกรุงเทพ) (น้ำมัน+EV)
ในปั๊มนี้มีร้านกาแฟอเมซอน และมีของสะสมจัดโชว์ให้เราดู ซึ่งสาขานี้พิเศษกว่าทุกที่ มีร้านขายของฝากกลับล้านด้วย ใครจะซื้อของฝากมาปั๊มนี้มีครบทุกอย่าง
จากนั้นเราก็มาถึง แก่งกระจานเซอร์กิต แต่เช้า เริ่มมีรถแข่งมาเตรียมแล้ว ลูกชายคนโตของผมสมัครมาขับ แต่ผมก็ไม่รู้รายละเอียดมากเกี่ยวกับการแข่งขัน มารอบนี้เป็นแค่คนขับรถ
หากท่านใดสนใจเกี่ยวกับรถ ลองเข้าไปชมเว็บนี้ได้ครับ ลูกชายผมเขาเป็นทีมงาน SandwishMedia
ผมหมดหน้าที่คนขับรถก็หาที่เที่ยวระหว่างวัน เล็งไว้นานที่ราชบุรี Phupha Coffee Camp ภูผา คอฟฟี่ แค้มป์ สถานที่นี้ห่างจากสนามแข่งประมาณ 1 ชม. วิ่งเส้นทางจากเพชรบุรีไปราชบุรี คือไปตาม GPS เลย
ที่นี่เป็นลานกางเต็นท์ หมุดหมายที่ผมเล็งเอาไว้นาน เพราะดูรีวิวของผู้ชื่นชมธรรมชาติ ด้านในมีแหล่งน้ำ พายเรือได้ ส่วนในลานมีทั้งแบบอยู่ในป่าสน หรือลานโล่ง แล้วแต่จะเลือก เขาคิดคนละ 250 บาท (คิดต่อคน)
ร้านกาแฟก็มี คนก็มาดื่มกาแฟกัน นั่งชิลๆ ใต้ต้นสน
หน้าหนาวคนคงเยอะมาก ขนาดวันนี้ออกร้อนๆ ยังมีคนมากางกันเลย สมันนี้มีแบตเตอรี่ เอาทั้งพัดลมหรือแอร์เคลื่อนที่มาเองได้
ผมอยู่สักพัก เพราะอากาศค่อนข้างร้อน ขับรถผ่าน ภูพันตา (เดาว่าเป็นไร่สับปะรดมาก่อน) วิวภูเขาโล่งๆสวยดี แต่ก็อย่างว่าครับ อากาศไม่เป็นใจเพราะร้อน เลยไปดีกว่า
ขามามองเห็นป้าย ตลาดน้ำกวางโจว เลยตั้งใจแวะอีกที่ เวลามีทั้งวัน ที่นี่เสียค่าเข้าคนละ 25 บาท เอาไปแลกเป็นซื้อน้ำหรืออาหารได้ 10 บาท
ทีแรกว่าจะกินข้าวที่นี่ แต่ผมเป็นคนขี้ร้อน เลยได้แต่เดินดูบรรยากาศรอบๆ เชื่อว่าหน้าหนาวคงดีมากๆ (โหยหาหน้าหนาว)
มารอบนี้ได้ไปอย่างที่ตั้งใจไว้ทั้งสองที่แบบไม่ได้ตั้งใจ ถือว่าคุ้มและพอแล้ว
ร้านอาหารจานบินคันทรี่ วงเวียนเเก่งกระจาน เป็นที่ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะแวะ แต่เห็นป้ายโฆษณาที่สนามแข่งรถ ลองไปดู โอ้โห ร้านเขาใหญ่จริงๆ เป็นร้านอาหารที่มีพื้นที่ ประดับของตกแต่งด้วยของเก่า
ผมเลือกเมนู หมึกสายแดดเดียว เออ อร่อยดีเหมือนกัน
อิ่มท้องก็มุ่งไปสู่ที่พัก OYO Capital O 390 Nana River Kaeng Krachan อยู่ริมน้ำ มีทั้งสไลเดอร์และสระว่ายน้ำ แต่ผมได้แต่นอน ห้องพักที่ได้เป็นแบบ 3 เตียง นอนได้ 6 คน แต่เรามาแค่ 2 คน ถือว่าห้องใหญ่มาก
เช้าวันอาทิตย์ที่ 27 ตค. ผมไปส่งลูกที่สนามแข่ง แล้วไปนมัสการพระเจ้าหัวหิน เป็นโบสถ์เล็กๆ ในร้านนวดแผนไทย Hua Hin Healing Hands Health Massage พี่น้องคริสเตียนเยอะเหมือนกัน
เดี๋ยวนี้หัวหินมีสถานีรถไฟทันสมัยสวยงาม
บ่ายๆ ก็หาที่แวะรอเวลาสนามแข่งเลิก ผมเลยไปแวะ เขื่อนแก่งกระจาน บนสันเขื่อนลมแรงมาก
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อยู่ถัดไป เดี๋ยวนี้พัฒนาไปมากกว่าในอดีต ผมมารอบนี้ห่างจากรอบที่เคยไปมาหลายสิบปี ถือว่าดีมากๆ ทั้งบรรยากาศแวดล้อม และสถานที่
เย็นแล้วกลับมาที่สนามแข่งรถ ผมก็ไปเก็บภาพเล่นๆ ดูไม่เป็นหรอกครับ ว่าเขาแข่งกันยังไง ลูกชายมาบอกว่าได้ที่ 1 ก็ดีใจกับเขาด้วย ออกจากสนามทุ่มกว่า มาถึงบ้านย่านรามอินทราประมาณ 4 ทุ่ม GPS พามาทางอื่นที่ไม่ใช่พระราม 2 ก็งงๆ เส้นทาง แต่ก็กลับถึงบ้าน
โปรดติดตามทริปต่อไปเดือนพฤศจิกายน กาญจนบุรี!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น