เที่ยวทั่วไทย-ไปไกลทั่วโลก: สิงหาคม 2012

26 สิงหาคม 2555

ชุมชนชาวเล อูรักลาโว้ย ที่เกาะลันตาใหญ่

ที่เกาะลันตายังมีชุมชนชาวเลอยู่ที่ันั่นด้วย ปัจจุบันมีประมาณ 1,000 คน และยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ท่านใดสนใจธรรมชาติและวิถีแบบเดิมๆ ต้องไม่พลาดเมื่อมาเกาะลันตาใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้ท่าเรือเลย เมื่อข้ามฟากแล้ว เลี้ยวขวามาเลยครับ ชุมชนอยู่ทางซ้ายของภาพ

ทางด้านซ้ายคือชุมชนชาวเลอูรักลาโว้ย

ป่าโกงกางใกล้ชุมชน

ทางเดินเข้าชุมชน

แผนผังของชุมชน

เรือของชาวเลที่นั่น

บ้านของชาวเลเป็นแบบนี้

ทางเดินเข้าชุมชนอยู่ริมทะเล

เรือจอดพักริมทะเล

ชาวเลซ่อมแซมเรือของตน

ทาสีเรือ

ปัญหาของความเจริญที่เข้ามาในเกาะ
จนชาวเลที่นั่นเดือดร้อน

อุปกรณ์หาปลา

ป้ายอธิบายวัฒนธรรมความเชื่อของชาวเล

ทางเข้าศาลเจ้าโต๊ะบาหลิว

ประวัติประเพณีลอยเรือของชาวเล

ภาพผังที่อยู่อาศัย

โมเดลของแหล่งที่อยู่อาศัย

ศาลเจ้าโต๊ะบาหลิว

ชาวบ้านเอาปลามาตากแดด

ท่าเทียบเรือบ้านศาลาด่านอยู่ติดกับชุมชนชาวเล

ข้ามอีกครั้ง ลันตาใหญ่

หลังจากขับรถข้ามเกาะลันตาน้อย ก็มาถึงอีกท่าเรือหนึ่ง ซึ่งตอนนี้กำลังสร้างสะพานข้ามเกาะ ในอนาคตก็ไม่ต้องใช้แพข้ามฟากสำหรับจุดนี้อีกแล้ว

เกาะลันตาน้อยอยู่ทางด้านขวา
ส่วนเกาะลันตาใหญ่อยู่ทางด้านซ้าย

มองเห็นชุมชนร้านอาหารริมทะเลของเกาะลันตาใหญ่
มุมมองจากแพขนานยนต์

ท่าเรือข้ามฟาก

เรือดันแพ

พอฟ้าใสก็ได้ภาพสวย

ลมทะเลเย็นสบาย

อีกมุมมองบนแพ

ข้ามฟาก 2 ครั้งที่เกาะลันตาน้อย ลันตาใหญ่

หากเราจะมาเที่ยวหมู่เกาะลันตาทางรถยนต์ต้องนำรถข้ามฟากถึงสองครั้งๆ ละ 70 บาทรวมคนขับ หากมีคนโดยสารด้วยคิดคนละ 10 บาทครับ

แพข้ามฟาก ท่าเรือจะเยื้องกัน มุมมองจากฟ้า
ท่าด้านล่างคือฝั่งแผ่นดิน ท่าด้านบนคือเกาะลันตาน้อย

แพบรรทุกรถมีหลายขนาด

ทีมงานที่ไปด้วยกันในครั้งนี้ ตอนนี้อยู่บนแพแล้วครับ

ลงมาถ่ายภาพเล่นกัน สำหรับการมาครั้งแรก

ต้องมีเรือเล็กดันให้แพข้ามฟากหันหัวไปในทิศที่ต้องการ

วิวทะเลในช่วงนั้น

แพอีกลำที่กำลังข้ามมา

25 สิงหาคม 2555

หาของกินที่กระบี่

มากระบี่ทั้งที ต้องหาอาหารทะเลกิน เพราะเคยมาที่นี่นานแล้ว ลองออกไปสุดแม่น้ำกระบี่เจอร้านนึงเข้า "ริมชลซีฟู้ด" ลองสั่งตามสูตร ปลาหมึก และหอย จัดมาเลย

หมึกไข่นึ่งมะนาว ที่นี่เป็นแบบแห้ง ใส่จานมาเลย
แต่รสชาดสุดยอด ขอบอก

หอยชักตีน ไม่ได้กินนานแล้ว สมัยก่อนมีแต่ที่กระบี่
เดี๋ยวนี้มีหลายที่แม้แต่กรุงเทพ แต่ต้องสั่ง อร่อยเหมือนเดิม

เช้าวันต่อมา หาอาหารเช้ากินก่อนไปเกาะลันตา

เจอร้านขายติ๋มซำ และซาลาเปา กินเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น

อร่อยทุกจาน เพิ่มรสชาดด้วยน้ำจิ้มออกเผ็กนิดๆ

ถึงแยกไปเกาะลันตาแล้วครับ

เที่ยวเมืองกระบี่

เดือนสิงหาคมนี้ ฝนยังตกแทบทุกวัน มีช่วงให้เห็นฟ้าใสๆ บ้าง คราวนี้ผมมาทำงานที่กระบี่ครับ หลังลงเครื่องก็เข้าเมือง ใช้บริการแท็กซี่ไปส่งที่โรงแรมกลางเมือง 350 บาทครับ ราคาเอาเรื่องเหมือนกัน จากนั้นก็เดินหาอาหารกลางวันกิน ก็มาเจอสี่แยกที่แปลกเอามากๆ เพราะสัญญาณจราจรที่นี่เป็นคนโบราณที่กล่องไฟแดง