ค้นหาที่เที่ยวในบล็อกนี้

28 ตุลาคม 2553

ผักแปลกๆ ที่หากินในกรุงเทพฯ ไม่ได้


ช่วงนี้ผมไปหลายจังหวัด ได้กินผักแปลกๆ หลายอย่าง ใครรู้จักก็ช่วยบอกด้วยนะ ว่ามันมีชื่อว่ายังไงบ้าง

มะแขว่น ผักเม็ดเล็กๆ เหมือนพริกไทย แต่รสชาดซ่าลิ้นอย่างประหลาด
ใช้กินกับลาบเหนือ ไปชิมได้ที่ จ.แพร่

ถ้าไม่เคยกิน กรุณากินแค่เม็ดเดียวก่อน
เพราะอาจจะอ้วกได้

ส้มตำร้านลุงส. ที่ อ. เชียงคาน จ.เลย
แซ่บอีหลี ขอบอก

อันนี้ยังไำม่ได้ถามเลย ว่ามันชื่ออะไร ใครรู้ช่วยบอกด้วย

ผักที่ถูกจัดมาเป็นผักเครื่องเคียง กินกับลาบ ส้มตำ

อันนี้ก็ไม่รู้ชื่อ แต่อร่อยดี กินกับส้มตำ
จาก จ.เลย ที่กรุงเทพฯ เคยเห็นเหมือนกัน

14 ตุลาคม 2553

รำวงแบบย้อนยุคที่ถนนคนเดิน เชียงราย

ใครที่ชอบรำวง ต้องมาที่ถนนคนเดินเชียงรายครับ เพราะเขามีรำวงแบบย้อนยุคด้วย เห็นแล้วก็อยากเข้าไปร่วมวงด้วย บรรยากาศสนุกสนานเป็นกันเอง



คราวหน้าใึครไปเที่ยวเชียงรายก็อย่าพลาด ถนนคนเดิน เสาร์-อาทิตย์ นะครับ รับรองไม่ผิดหวังกับบรรยากาศแบบไทยๆ

ถนนคนเดินเชียงราย-เชียงใหม่


ผมมีโอกาสไปทำงานที่เชียงราย-เชียงใหม่ เวลาเที่ยวจึงไม่มี จึงต้องมาเดินเล่นตอนกลางคืน "ถนนคนเดิน" จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของทริปนี้

ที่เชียงรายถนนคนเดินมีลักษณะเป็นตลาดกลางแจ้ง แต่พื้นที่ทางเดินจะแคบ และค่อนข้างเบียดเสียด แต่โดยรวมก็โอเค ที่สำคัญของที่เชียงรายมีราคาถูกมากๆ ผมได้แว่นตามา 1 อัน ราคา 50 บาทเอง ถูกใจมาก

ลูกคนโตของผมได้รองเ้ท้าใหม่หนึ่งคู่ ราคา 150 บาท

บรรยากาศถนนคนเดินที่เชียงราย
ผมได้มุมนี้เพราะขึ้นไปบนนั่งร้านสำหรับถ่ายภาพกิจกรรม 350
เลยได้มุมสูงแบบนี้

อีกมุมด้านหนึ่ง จะเห็นว่ามีผู้คนมากมาย ค่อนข้างเบียดเสียด

อีกที่หนึ่งก็คือเชียงใหม่ เปิดเสาร์-อาทิตย์ เหมือนกันกับที่เชียงราย เสียดายว่าอากาศช่วงนี้ร้อนไปหน่อย ที่เชียงใหม่พื้นที่ทางเดินจะกว้างกว่า และมีสินค้าทำมือ สินค้าพื้นเมืองมากกว่า รวมไปถึงผลงานทางศิลปะ ของเล่นต่างๆ ในขณะที่เชียงรายสินค้าเน้นไปทางเสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ

ของเล่น อึยาง ทำจากยางพารา เด็กๆ หลิบมาเล่น

ภาพศิลป์ สำหรับตกแต่งบ้านมีจำหน่ายที่เชียงใหม่
บนถนนคนเดิน

บรรยากาศที่เชียงใหม่ เหมือนกันกับเชียงราย

ผมกับลูกชายเดินเล่นบนถนนคนเดิน

หนาวปีนี้ไม่ควรพลาดถนนคนเดินนะครับ เห็นว่าปีนี้จะหนาวสุดๆ แต่ตอนนี้ร้อนสุดๆ เหมือนกัน!

06 ตุลาคม 2553

4 วัน 3 คืน ที่ปากชม-เชียงคาน-ภูเรือ-ด่านซ้าย จังหวัดเลย


ภารกิจหลักของผมคือการไป อ.ปากชม โดยเริ่มออกเดินทางตอน 4 ทุ่ม ของวันที่ 1 ตค. มาถึงเลยก็สว่างแล้ว ง่วงมากเลย จึงพักนอนที่ อ.เชียงคาน (ผลก็คือต้องพัก 2 คืน) แต่ต้องไปทำงานที่ปากชม ภารกิจก็คือ ไปติดต่อหาผู้ประสานงานและใช้หัวเชื้อชีวภาพ BeztDM การทำน้ำหมักชีวภาพสูตรใหม่ ไม่ใช่กากน้ำตาล

ชาวบ้านร่วมมือดีมาก เอาส้มโอที่กินไม่ได้ (เพราะมันขม)
มาหมักเป็นหัวเ้ชื้อ

คริสตจักรโป่งสำราญคือเป้าหมายของผม
เพราะที่นี่เป็นศูนย์เรียนรู้ด้วย

อ.ต่อ เกษตรกรผู้ทำงานและทำงานที่คริสตจักรไปพร้อมๆ กัน
และรถอีแต๋นของที่นี่ไม่เหมือนใคร

แม้จะอยู่บนภูเขา แต่ที่นี่ก็โดนน้ำท่วมเหมือนกัน

ต้นไม้ใหญ่ยังล้มได้

เส้่นทางระหว่างเชียงคานและปากชม เป็นเส้นทางที่ติกริมแม่น้ำโขง บรรยากาศในการเดินทางดีมากๆ สำหรับคนที่ไม่รีบร้อนในชีวิต หรืออยากจะสงบแบบไปเรื่อยๆ มาที่นี่รับรองต้องชอบ

ไอน้ำกลายเป็นเมฆหมอก ซึ่งก็จะกลายเป็นฝน มีให้เห็นตลอดเส้นทาง
เพราะที่นี่มีภูเขามากเป็นพิเศษ

อ.เชียงคานนับเป็นเมืองที่สงบน่าอยู่เมืองหนึ่ง เหมือนกับว่าคนที่นี่ไม่เร่งรีบอะไร ผมมาอยู่ที่นี่ 2 คืน (ตอนกลางวันไปทำงานที่ปากชม) เห็นกิจกรรมหลักๆ ของคนที่มาท่องเที่ยวที่นี่คือ ขี่จักรยานเล่น และดูของที่ระลึก กินอาหารพื้นเมือง (แหม มันน่าอิจฉาจริงๆ ขอบอก)

เครื่องฉายหนังโบราณราคา 2 แสน (เทียบเป็นเงินปัจจุบัน x 500)

น้องนายกับแว่นอันโต

อาทิตย์ตกที่ริมโขง น้ำเยอะกว่าตอนต้นปี

นักท่องเที่ยวใส่บาตรข้าวเหนียว
(อดคิดไม่ได้ว่าข้าวมันจะเค็มไหม? เพราะใช้มือจกใส่)

เดินเล่นบนถนนยามค่ำคืนที่เชียงคาน

วัดพระบาทภูควายเงิน
(เป็นคนไทยหรือเปล่า?)

แก่งคุ้ดคู้ก็อยู่ำไม่ไกลจากเชียงคาน
เป็นอีกที่ที่ผมเห็นคนขี่จักรยานมาเที่ยวเล่น

ขากลับผมเลือกกลับทางด่านซ้าย เพื่อมาทางหล่มสักเพชรบูรณ์ แน่นอนว่าตั้งใจมาเที่ยว อ.ภูเรือ อยากมาเห็นภูเรือในหน้าอื่นนอกจากหน้าหนาวบ้าง ผมและครอบครัวมาที่นี่หลายครั้งแล้วครับ

เด็กๆ ถ่ายภาพที่หินเต่าบนยอดภูเรืิอ

ที่ภูเรือมีมุมให้ถ่ายภาพแบบนี้ดีครับ
ใครอยากรู้เมล์มาถามจะบอกให้

มีน้ำตกใกล้ที่พักด้วย ที่ไร่สโรชารีสอร์ท อยู่ตีนเขา

ฟ้าใส และหนาวแรกของภูเรือ หลังหมดฝน
คาดว่าปีนี้อาจจะหนาวติดลบ

ที่วัดอุณหภูมิหน้าอำเภอ

อีกที่คืออ.ด่านซ้าย ที่มีเวลาแวะ เพราะขากลับผมเลือกลับในตอนกลางวัน ที่ด่านซ้ายมีที่น่าเยี่ยมชมหลายแห่ง ถนนเป็นวิวภูเขา และเป้าหมายที่แวะคือพิพิธภัณฑ์ผีตาโขน

น่าดีใจกับคนด่านซ้ายที่อนุรักษ์วัฒนธรรมเอาไว้จนโด่งดัง

มีชุดให้ใส่เล่นถ่ายภาพด้วย ดีมากเลยครับ

และทริปนี้ก็สิ้นสุดลงในวันที่ 5 ตค. ครับ วันที่ 7 ผมจะไปเชียงรายอีกครับ จะไปตามสืบเรือโนอาห์มาเล่าให้ฟังครับ

เรือโนอาห์ที่เชียงราย

เรือโนอาห์ในยุคน้ำท่วมโลกตามตำนานในพระคัมภีร์

ผมไปเจอเรือลำนี้จอดอยู่เหมือนกำลังรอรับใครอยู่ที่เชียงรายครับ เป็นเรือขนาดใหญ่ ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนสร้าง แต่จะตามไปสืบมา เพราะผมจะำไปเชียงรายอีกครั้งวันที่ 8-10 ตค.นี้ครับ