แวะดื่มกาแฟที่รังสิตคลอง 15

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 พค. ที่ผ่านมา ผมไปบรรยายที่จ.นครนายกอีกครั้ง ออกจากกรุงเทพฯ แต่เช้า เลยหากาแฟดื่มยามเช้า นึกถึงร้านกาแฟแถวคลอง 15 เลยแวะที่ร้านนี้ครับ ซึ่งตั้งอยู่หน้าปากซอยพอดี แถวคลอง 15 จะเป็นย่านที่ขายต้นไม้ประดับยาวไปเกือบทั้งซอย

ถ้าใครไปเที่ยวนครนายกก็ลองแวะที่นี่ได้ครับ บรรยายกาศร่มรื่นดีมาก ทั้งๆ ที่เป็นร้านกาแฟเล็กๆ

หน้าร้านจะมีตู้ไปรษณีย์ตั้งอยู่แบบนี้ครับ

บรรยากาศภายในร้าน มีเก้าอี้ไม้น่านั่งพักแบบนี้

นี่ก็อีกมุมหนึ่ง

มีของประดับบ้านขายด้วย

เด็กๆ ก็มีมุมดูของเล่นเหมือนกัน

แวะเที่ยวราชบุรี ขากลับเข้ากรุงเทพฯ

หลายครั้งที่ผมเดินทางไปแถวเพชรบุรี มักจะกลับมาทางถนนสายพระรามที่ 2 เสมอ และจะออกจากหัวหินเช้า และกลับมาถึงกรุงเทพฯ บ่ายนิดหน่อย คราวนี้ผมลองแวะเที่ยวราชบุรี เหตุเพราะดูสารคดีทางทีวีก็พบว่าราชบุรีมีที่น่าแวะเที่ยวอยู่หลายแห่ง

มาจากแยกพระรามที่ 2 ตรงอ.ปากท่อ มาราชบุรีอีก 20 กว่ากิโล แล้วเลี้ยวขวาเข้าเมืองจะเป็นทางหลวงหมายเลข 4 แล้วตรงไปเรื่อยๆ จะเป็นถนนศรีสุริยวงศ์ ขับจนสุดถนนแล้วเลี้ยวซ้ายจะผ่านโรงพักตึกเก่าๆ แต่ทาสีใหม่ แล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีมองเห็นแม่น้ำ ขับไปเรื่อยๆ จนถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี ค่าเข้าชมคนละ 20 บาท เปิดวันพุธ-อาทิตย์ ดังนั้นจันทร์-อังคารอย่ามาเด็ดขาดเพราะจะปิด

ป้ายด้านหน้าทางเข้า

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เคยเป็นศาลากลางจังหวัดมาก่อน

รูปทรงอาคารคงเอกลักษณ์สไตล์ยุคสมัย ร.5

อีกที่หนึ่งเป็นวัดครับ แต่เป็นวัดที่ไม่เหมือนวัดทั่วไป อยู่ใกล้ๆ กัน เป็นวัดที่สร้างโดยผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในรัชกาลที่ 5 นั่นคือ พระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ท่านสร้างวัดสไตล์ยุโรป เสาทรงกรีก ตามสมัยนิยมของยุคนั้น คือนิยมฝรั่ง

หนังสือที่ผมเขียน เรื่อง "เปนดังฝรั่งตะวันตก"
ทำให้มีข้อมูลให้ติดตาม และเข้าใจสถานที่พอควร

เมื่อถึงด้านหน้าจะมองเห็นกำแพงสีเหลืองอย่างนี้

ด้านในจะมีเจดีย์อยู่หลังพระอุโบสถ

เสาทรงกรีก ที่คนไทยเข้าใจผิดและเรียกว่าเสาทรงโรมัน
เสาแบบนี้เรียกว่าทรงไอโอนิค
อยู่เรียงรายรอบอาคารอุโบสถ

ป้ายชื่อวัดศรีสุริยวงศ์ตั้งชื่อตามผู้สร้า้ง

มุมมองนี้จะเห็นพระอุโบสถเป็นแบบยุโรปตามสมัยนิยม

อีกที่หนึ่งต้องขับรถกลับมาที่อ.วัดเพลงอีกประมาณ 15 กม. เกือบถึงตัวอำเภอจะเจอโบสถ์คริสต์ 100 ปีที่นั่น โบสถ์นี้เป็นโบสถ์คาทอลิก (โบสถ์โปรเตสแตนท์จะสร้างอีกสไตล์หนึ่ง)

รูปปั้นเทวทูตจะอยู่ด้านหน้าโบสถ์
จะมีเหมือนกันทุกทีตามโบสถ์คาทอลิก

ด้านหลังของโบสถ์ระบุปีที่สร้าง 1903 ซึ่งตอนนี้มีอายุถึง 107 ปี

โบสถ์ด้านหน้ามีลักษณะเหมือนๆ กันหลายที่ในประเทศไทย
แต่สีสันอาจแตกต่างกันไป จะเปิดเฉพาะวันอาทิตย์โดยมีพิธีกรรมทางศาสนา

ที่สุดท้ายคือตลาดดำเนินสะดวก ควรมีแผนที่ติดรถไปด้วยนะครับถึงจะเที่ยวแบบนี้ได้ และแต่ละที่ก็ไม่ได้ไกลจากกันมากนัก

ปกติตลาดน้ำแห่งนี้จะเป็นตลาดเช้า และอัมพวาจะเป็นตลาดเย็น ควรเลือกเวลาให้เหมาะสม แต่อย่างว่าผมเลือกมาตอนขากลับจึงมาถึงที่นี่ตอนบ่าย 2 โมง เสียค่าจอดรถ 20 บาท

ตลาดน้ำอยู่ที่คลองดำเนินสะดวก

ถึงจะบ่ายก็มีคนมาเที่ยวเหมือนกัน แต่แม่ค้าจะน้อยกว่ามาก

ผลไม้จากสวนที่แม่ค้ารับมาขาย ยังเป็นสีสันของตลาดน้ำที่นี่