ค้นหาที่เที่ยวในบล็อกนี้

12 มีนาคม 2557

พายเรือ เข้าถ้ำ ที่กระบี่ (ถ้ำผีหัวโต)

จุดเริ่มต้นของการเขียนนิยายของผม เริ่มที่ จ.กระบี่ ครับ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแท้ๆ ทำให้ได้ไอเดีย

เรือคายัคสำหรับพายในคลอง

ที่แห่งนี้ที่ได้มาเที่ยวเพราะน้องของเพื่อนทำบริษัททัวร์ที่กระับี่ เขาอยากได้ภาพการพายเรือเที่ยวพอดี ช่วงนั้นเพิ่งได้กล้องตัวใหม่ Sony เป็นกล้องถ่ายภาพนิ่งดิจิตอล (ปี 2001) เลยรับอาสาไปถ่าย ได้เที่ยวฟรี พักฟรี อย่างนี้ต้องไปครับ

เป้าหมายคือที่จ.กระบี่ ถ้ำผีหัวโต

ตั้งอยู่ในเขตอำเภออ่าวลึกในเทือกเขาผีหัวโต ซึ่งมีลักษณะเป็นเขาหินปูนล้อมรอบด้วยบึงและป่าโกงกาง นั่งเรือจากท่าเรือบ่อท่อไปประมาณ 10 นาที เลยทางแยกไปถ้ำลอดใต้เล็กน้อย จากปากถ้ำมองเข้าไปจะเห็นทางแยกเป็น 2 ทาง ทางซ้ายมือจะตัดตรงไปยังด้านหลังของถ้ำที่เป็นโพรงใหญ่ มีแสงสว่างส่องเข้ามาถึงได้ ส่วนด้านขวามือเป็นทางที่จะตรงเข้าไปยังห้องโถงของตัวถ้ำ แต่เดิมภายในถ้ำเคยพบหัวกะโหลกมนุษย์ซึ่งมีขนาดโตกว่าปกติจึงมีชื่อว่า “ถ้ำผีหัวโต” นอกจากนี้บนผนังถ้ำยังปรากฏภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์จำนวนมาก อาทิ รูปคน รูปสัตว์ ตลอดจนรูปอวัยวะต่าง ๆ และบนพื้นถ้ำมีเปลือกหอยทับถมกันอยู่เป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ตามเพิงผาและผนังถ้ำบนเกาะน้อยใหญ่ในเขตป่าชายเลนตอนกลางอุทยานแห่งชาติยังเป็นแหล่งภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ เช่น ถ้ำชาวเล แหลมท้ายแรด เกาะกาโรส แหลมไฟไหม้ ระยะทางแหลมสัก-แหลมไฟไหม้ 5 กิโลเมตร แหลมสัก-ถ้ำชาวเล 2 กิโลเมตร แหลมสัก-เขากาโรส หรือเกาะกาโรส 7 กิโลเมตร การเดินทางเช่าเหมาเรือหางยาวที่ท่าเรือแหลมสักตามระยะใกล้-ไกล และควรเดินทางช่วงน้ำขึ้นจะได้ขึ้นฝั่งสะดวก

สนใจติดต่อ http://krabistarlighttraveltour.blogspot.com/



ฝรั่งชอบ แต่คนไทยยังน้อยอยู่

พายตามกันไปชมวิวธรรมชาติ

หินรูปช้าง

กำลังจะพายเรือลอดถ้ำ


อยู่ในถ้ำแล้วครับ ตรงกลางมืดทึบเลยครับ พอออกมาก็เห็นแสงสว่าง


เป็นลากูนกลางน้ำเลยครับ สวยมากๆ น่าประทับใจ




หินรูปเงือก ผมเอามาเล่าใหม่ เป็นตัวละครชื่อ "มัสยาฆาตี"



หินรูปฤาษี

ทางออกจากถ้ำ

ตัวละครหลักของผม

ตกแต่งภาพด้วยโปรแกรม
กลายมาเป็นโปสเตอร์แบบนี้

เที่ยวหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล

เป็นทริปตั้งแต่ปี 2002 ไปแบบไม่ได้วางแผนครับ คือตอนนั้นผลิตหนังสือ เอาหนังสือไปส่งที่ จ.พัทลุง พอมีเวลาว่าง 2-3 วัน ไหนๆ ก็มาใต้แล้ว

ลูกค้าที่พัทลุงเลยชวนไปเที่ยวเกาะตะรุเตา เพราะเขามีแขกฝรั่งมาเยี่ยม เลยร่วมไปด้วยกัน ไปนอนค้างที่บ้านพักแถวท่าเรือปากบารา 1 คืน

แล้วเหมาเรือกันไป และพักนอนเต้นท์ที่เกาะอาดัง 1 คืน

แล้วเช้าต่อมาเรือก็พาไปว่ายน้ำดำน้ำเล่นเกาะราวี แล้่วบ่ายก็กลับ ผลปรากฏขากลับ คลื่นแรงมาก สูงถึง 2 เมตร เสียวเรือล่ม กว่าจะถึงท่าเรือ เลยขอเขาแวะพักที่เกาะตะรุเตา เลยได้นอนค้างที่นั่นอีก 1 คืน

ซึ่งนับว่าเป็นทริปบังเอิญจริงๆ หาโอกาสแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะต้องขับรถไกลเป็นพันกิโลเลยทีเดีัยวครับ

ชมอาทิตย์ตกที่ปากบารา

เรือประมงที่ปากบารา

ออกจากท่า้เรือ

ถึงเกาะไข่ อยู่กลางทางเลย สวย มหัศจรรย์ ธรรมชาติ

นอนที่เกาะอาดัง เย็นๆ เล่นน้ำตลอด

วิวอาทิตย์ตกที่เกาะอาดัง

เพื่อนฝรั่งที่มาด้วย เขาบอกว่าชอบเมืองไทยมากๆ

เช้าๆ เดินมาอีกด้านของเกาะ เพื่อถ่ายภาพอาทิตย์ขึ้น

ศาลาสำหรับกางเต้นท์ ไม่ต้องกางบนพื้นทราย

เรือพามาดำน้ำเล่นกลางทะเล

สวย และเสียว วังเวงใต้น้ำ

แวะมาอีกเกาะที่ เกาะราวี

ถ่ายภาพที่ระลึก

แวะขึ้นไปบนเกาะหินงาม ป้ายคำสาป เพราะถ้าทุกคนเก็บกลับไป ป่านนี้คงหมดไปแล้ว

เชื่อกันว่า หินนี้ถูกพายุพัดมา และตกลงตรงนั้น เพราะดูน่าจะเป็นหินจากแผ่นดินมากกว่าจะอยู่ที่นั่น

เรือที่เราเช่าเหมาลำ สะดวก ส่วนตัว และหวาดเสียวตอนเจอคลื่นด้วย

แวะนอนที่อุทยานอีก 1 คืน

วิวจากเกาะตะรุเตา

หมู่เกาะที่อยู่ซ้ายมือคือเกาะอาดัง-ราวี และหลีเป๊ะ ตะรุเตาอยู่กลาง ส่วนล่างใหญ่คือเกาะลังกาวีของมาเลเซีย

เที่ยวเกาะสิมิลัน (จ.พังงา) ตามรอยนิยายแฟนตาซี

ผมมีโอกาสไปเที่ยวทะเลทางใต้นานมาแล้ว เมื่อปี 2004 ช่วงที่เขียนนิยายแฟนตาซีเรื่อง "สิมิลัน กราภูงา" เขียนมาหลายปี เพิ่งมีโอากาสไปสถานที่จริงเพียงครั้งเดียว และยังหาโอกาสไปอีกไม่ได้เลย จึงนำเอาภาพที่บันทึกเอาไว้มาฝากทุกท่านที่แวะเข้ามาชมบล็อกนี้ครับ เผื่อใครได้ไปมาแล้วก็มาเล่าสู่กันฟังได้ครับ

หนังสือนิยามวรรณกรรมเยาวชนที่ผมแต่งขึ้นอ้างอิงกับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทย

ทำเป็๋นหนังสือการ์ตูนด้วยครับ

ตั้งใจจะทำเป็นหนังสือเพื่อการท่องเที่ยวแต่ยังไม่ได้ทำสักที

ตัวละครในเรื่อง ศักดิ์สิทธิ์นาค, สิมิลัน และทรงเวทย์

บทความที่เคยเขียนไว้ ลงตีพิมพ์ในโพสต์ทูเดย์ เมื่อ 1 สิงหาคม 2546

สัญลักษณ์ของเกาะสิมิลัน

ทะเลสวย น้ำใส หาดทรายขาว

ถ่ายจากมุมบน ใกล้หินรูปเรือใบ

ผมกับลูกชายทั้งสอง เมื่อ 10 ปีที่แล้ว

เขาบอกว่าหินรูปหัวเป็ด (เหมือนไหมนะ)