ค้นหาที่เที่ยวในบล็อกนี้

26 กรกฎาคม 2553

นั่งเครื่องบินไปนอนเล่นที่เชียงราย

คราวนี้มาเล่าถึงการเดินทางที่ไม่ได้ขับรถไปด้วยตัวเอง แต่เป็นงานที่ถูกเชิญไปบรรยายเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนที่เชียงราย เจ้าภาพจัดงานคือ คณะกรรมการทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งแน่นอนว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินจึงเป็นการเดินทางของผมในครั้งนี้

ทางผู้จัดมอบตัวเครื่องบินให้ผมเป็นสายการบินโอเรี่ยนไทย หรือ 12go แต่ดูเหมือนชื่อหลังจะไม่ได้ใช้แล้ว และที่พักในครั้งนี้คือ โรงแรมดุสิต ไอซ์แลนด์ รีสอร์ท ครับ

ตั๋วเครื่องบินราคารวม 1,950 บาท
กรุงเทพฯ-เชียงราย

ต้องไปเช็คอินที่ดอนเมืองครับ
เพื่อจองที่นั่ง ไปก่อนก็ได้นั่งแถวหน้าๆ
ผมได้นั่งที่ F อยู่ริมหน้าต่าง
(ที่นั่ง A และ F จะอยู่ริม แถวหนึ่งจะมี 5 ที่นั่ง
A,C จะอยู่ด้านหนึ่ง D,E,F จะอยู่อีกด้านหนึ่ง)

เครื่องบินลำนี้แหละที่จะพาผมไปเชียงราย
จุผู้โดยสารได้เกือบ 200 คน

เพียง 1 ชม.หลังจากขึ้นบินก็มาถึงเชียงรายแล้ว
(แต่มาเสียเวลารอขึ้นเครื่องเกือบ 2 ชม. และเอากระเป๋าอีกครึ่งชม.)

ห้องพักที่ รร.ดุสิต เชียงราย ห้อง 2 ที่นอน
แต่ผมได้นอนคนเดียว (เหงาจัง)

วิวที่มองออกมาจากห้องพักที่อยู่ชั้น 5
เป็นวิวภูเขา และหมอกยามเช้า

โรงแรมนี้ติดริมแม่น้ำกกครับ
และเป็นเกาะด้วย

หากท่านใดอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศในการพักผ่อน นั่งเครื่องบินก็ดีนะครับ ไม่เหนื่อยไม่เพลีย และที่สำคัญถึงเร็วดีครับ แต่ค่าใช้จ่ายอาจจะสูงไปหน่อยก็ขึ้นอยู่กับว่าเราวางแผนยังไงครับ

ครั้งต่อไปจะมาแนะนำว่าที่เชียงรายมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง

06 กรกฎาคม 2553

ชีพจรลงเท้า ไปฉะเชิงเทรา-สระแก้ว

สืบเนื่องมาจากต้องไปงานบวชของหลานที่ จ.สระแก้ว ผมได้รับตำแหน่งสารถีคนขับรถประจำตระกูลให้พาไปเที่ยวด้วย โปรแกรมท่องเที่ยวจึงต้องเป็นเส้นทางที่ผ่าน จุดแรกคือตลาดน้ำบางคล้า ซึ่งอยู่ในเส้นทางพอดี บนถนนสาย 304 สุวินทวงศ์มุ่งหน้าไปพนมสารคาม แน่นอนว่าต้องผ่านบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา

การเดินทางแบบนี้ควรมีแผนที่ช่วยจะดีมาก ตลาดน้ำที่นี่ต้องขับรถเข้าไปทางซ้ายอีกพอสมควร ซึ่งแยกจากถนน 304

ตลาดน้ำเพิ่งเปิดมาไม่นานตามกระแสตลาดโบราณ ซึ่งถือว่าดีครับ เพราะคนไทยชอบกินชอบเที่ยวอยู่แล้ว ที่นี่จะเปิดเฉพาะเสาร์อาทิตย์และวันหยุดพิเศษนักขัตฤกษ์

บรรยากาศเหมือนหลายๆ ที่ แต่ที่นี่ลมจะพัดเย็นสบาย มีแพสำหรับนั่งทานอาหาร เรือขายอาหารจะอยู่ด้านข้างจอดลอยลำริมๆ ในแม่น้ำบางปะกง

โต๊ะอาหารนั่งตรงไหนก้ได้เมื่อว่าง
สั่งอาหารมานั่งได้เลย

ร้านอาหารลอยน้ำ เอกลักษณ์ไทยๆ

ก๋วยเตี๋ยวทะเลชามนี้ 30 บาทครับ อร่อยใช้ได้

เรือจอดริมแม่น้ำ ตรงกลางคือแพที่นั่งทานอาหาร


อีกที่ที่เป็นเป้าหมาย คือตลาดโรงเกลือ ตลาดเสื้อผ้าขนาดใหญ่ ริมชายแดนไทย-กัมพูชา ห่างจากวัดที่ผมมาประมาณ 70 กิโลเมตร ที่อยากไป เพราะได้ยินชื่อเสียงมานาน ก็ลองไปดูจึงรู้ว่า ก็เหมือนสวนจตุจักร แต่ใหญ่กว่า และพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ไม่น่าจะใช่คนไทย

ตลาดโรงเกลือ อยู่อรัญประเทศ สระแก้ว

ร้านขานเสื้อผ้าแบ่งเป็นโซนต่างๆ ทั้งเสื้อใหม่และเก่า

มีบริการรถเช่า เพราะเดินทั้งวันอาจจะร้อนตายก่อน

ขากลับแวะตลาดน้ำอีกที่ของฉะเชิงเทรา ที่นี่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากๆ ชื่อว่าตลาดน้ำนครเนื่องเขต ซึ่งได้ปรับปรุงและพัฒนาจนน่ามาเที่ยวพักผ่อนยามว่างในวันเสาร์อาทิตย์ แต่อย่ามาหลัง 4 โมงเย็นนะ เพราะเขาเลิกตลาดแล้ว

ทางเข้าตลาดน้ำ อยู่สุดซอยเลย มาจากถนนใหญ่สุวินทวงศ์
มาตามป้ายบอกทางไม่หลงแน่นอน

บรรยากาศสบายๆ แม่ผมยังชอบเลย
คนที่หันหน้ามาเนี้ยและครับ
นักท่องเที่ยวตัวยง

สะพานข้ามคลองแบบนี้ น่าจะสร้างมาเพื่อตลาดน้ำโดยเฉพาะ
เสียดายว่าครั้งนี้มาเย็นไปหน่อย คราวหน้าจะหาโอกาสมาเยี่ยมที่นี่อีกครับ และจะนำภาพสถานที่มาให้ดูอีกครับ